“การเลือกตั้ง” เป็นกระบวนการหนึ่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันระบอบเให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ให้อำนาจประชาชนตัดสินใจเลือกผู้แทนของเขาได้เอง และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเลือกตั้งให้เกิดความสุจริต โปร่งใส เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย หน่วยงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)จึงถูกก่อตั้งขึ้นมาเป็นหน่วยงานอิสระในการควบคุมกฎกติกาการเลือกตั้ง เพื่อให้ได้มาซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) รวมถึงสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น

อย่างไรก็ตาม การบริหารงานของ กกต. ได้มีการจัดสำนักงานสาขาประจำจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้เกิดการดูแลควบคุมได้อย่างทั่วถึง ซึ่งแน่นอนว่า ผู้บริหารสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดที่ถูกคัดเลือกให้เข้าประจำในแต่ละแห่ง ย่อมต้องที่มาที่ไปเป็นที่ยอมรับและเชื่อถือได้อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่ง อปท.นิวส์เชิญเป็นแขกฉบับนี้ จะขอนำท่านผู้อ่านมารู้จักกับผู้บริหาร กกต.ประจำจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งก็คือ คุณณัฐวรรธน์ วงศ์อิสรภาพผู้​อำนวยการ​สำนักงาน​คณะกรรมการ​การเลือกตั้ง​ประจํา​จังหวัด​สมุทรสาคร​ หรือ “คุณหนึ่ง”ที่ถือเป็นหนึ่งบุคคลต้นแบบสำคัญในการพัฒนาขับเคลื่อนการเลือกตั้งประเทศไทยให้เป็นไปอย่างมีเสถียรภาพและถูกต้อง

โดยคุณหนึ่ง บอกว่า ตัวเขานั้นเป็นคนที่อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เป็นลูกชาวสวนดำเนินสะดวก มีอาชีพปลูกผักและผลไม้ ก่อนที่บิดาจะเดินทางมาเปิดกิจการในกรุงเทพฯ ทำให้ครอบครัวต้องย้ายตามมาอาศัยที่กรุงเทพฯ ด้วยกัน ด้วยเหตุนี้ จึงได้มีโอกาสเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลายทีโรงเรียนบางปะกอกวิทยาคมแขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ

คุณหนึ่ง บอกด้วยว่า ตัวเขามีความสนใจด้านการเมืองการปกครองมานานแล้ว เคยไฝ่ฝันที่จะเป็นลงสมัคร ส.ส. จึงได้เข้าสอบเอ็นทรานซ์เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภาควิชารัฐศาสตร์ สาขาอาชญวิทยา ต่อมาได้เรียนนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และได้ศึกษาต่อปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้เข้ารับการอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรผู้นำยุคใหม่ในระบอบประชาธิปไตย (ปนป.5) และหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.11) ในเวลาต่อมาด้วย

 “ก่อนที่จะจบปริญญาตรีผมเคยเป็นผู้ช่วยดีเจสถานีวิทยุ FM 101ก่อนที่จะได้ทำงานในสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เริ่มที่ตำแหน่งพนักงานการเลือกตั้ง 3 สำนักกิจการพรรคการเมืองฯ ในการรับหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบการจัดตั้งพรรคการเมืองและควบคุมตรวจสอบการดำเนินกิจการของพรรคการเมืองให้เป็นไปตามกฎหมาย”

ต่อมาจึงได้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดภูเก็ตเป็นที่แรก ซึ่งมีบทบาทสำคัญด้านบริหารจัดการการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติในจังหวัดนั้นๆ พร้อมกับส่งเสริม สนับสนุน ให้หน่วยงานของรัฐ สถาบันการศึกษา และองค์กรเอกชน ในการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่ประชาชนในพื้นที่เกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน หรือให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการเลือกตั้ง และความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ

อย่างไรก็ตาม ระหว่างนั้น ยังได้เป็นอาจารย์พิเศษบรรยายวิชาแนวคิด​และ​ทฤษฎี​รัฐประศาสนศาสตร์​และวิชาเศรษฐศาสตร์​และ​การคลัง​สาธารณะ​ที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชด้วยซึ่งทำให้ได้เห็นถึงมุมมองจากประชาชนกลุ่มต่างๆ โดยเฉพาะผู้มีสิทธิเลือกตั้งรุ่นใหม่ที่มีแนวโน้มให้ความสำคัญเกี่ยวกับการเมืองมากยิ่งขึ้น เพราะพวกเขาเข้าใจว่าการเมืองจะสร้างผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างไร ผลพวงจากราคาสินค้า ค่าน้ำ ค่าไฟ สาธารณูปโภค การคมนาคม ทุกอย่างล้วนมาจากนโยบายและการบริหารงานจากฝ่ายการเมืองทั้งสิ้นซึ่งการเลือกตั้งถือเป็นด่านแรกในการคัดกรองนักการเมืองเข้ามาใช้อำนาจทางการบริหารท้องถิ่นและประเทศชาติ ทำให้ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งต้องดำเนินการอย่างรัดกุมและตรวจสอบให้เกิดความสุจริตโปร่งใส และเที่ยงธรรม

โดยคุณหนึ่งได้เล่าถึงประสบการณ์ที่ได้รับในช่วงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการการเลือกตั้งว่า“ผมได้ปฏิบัติงานในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดจังหวัดภูเก็ตและสมุทรสาคร โดยผ่านการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นและระดับชาติ ซึ่งที่ผ่านมามีปัญหาอุปสรรคอยู่ตลอด เนื่องจากในปัจจุบันเทคโนโลยีทันสมัยขึ้น และคนในสังคมให้ความสำคัญกับการเมืองมากยิ่งขึ้น มีการติดตามข้อมูลข่าวสารของการเลือกตั้ง ซึ่งถ้ามองในแง่ดีก็ถือว่าเรามีคนช่วยกันตรวจสอบการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมแต่ก็มีคนบางกลุ่มที่มีการพยายามบิดเบือนข้อมูลเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจผิดของประชาชน บางครั้งเราก็ต้องเผชิญกับผู้คนจำนวนมากที่มีอารมณ์รวมตัวกันมากดดันขอคำตอบจากเรา โดยอาจเป็นเพราะผู้คนเหล่านั้นอาจได้รับข้อมูลมาเพียงด้านเดียวจนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด”

                เมื่อถามถึงปัญหาดังกล่าว จะมีหลักในการดำเนินการการอย่างไรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและแก้ไขความเข้าใจผิด ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสมุทรสาคร บอกว่า การให้ประชาชนเชื่อและมั่นใจในการเลือกตั้งนั้น ต้องทำให้ประชาชนเชื่อถือผู้จัดการเลือกตั้ง แสดงให้เห็นถึงจุดยืนทางการเมืองที่เป็นกลางในการทำงาน สะท้อนถึงความสุจริตและต้องมีสติ อดทนอดกลั้นไม่ตอบโต้ด้วยถ้อยคำรุนแรง พยายามใช้วิธีการอธิบายให้เกิดความเข้าใจในประเด็นต่างๆ ให้ตรงกันก่อน เชื่อว่าหากผู้ที่มาร้องเรียนได้รับคำชี้แจงอย่างเป็นเหตุเป็นผล ก็จะมีความเข้าใจในประเด็นต่างๆ มากยิ่งขึ้น เหตุการณ์ทุกอย่างก็จะค่อยๆ ดีขึ้น และก็ผ่านมาได้ด้วยดี

                และเพื่อให้กระบวกนการการเลือกตั้งไร้ข้อกังขาทาง กกต.ยังมีแนวทางที่จะใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการบริหารจัดการการเลือกตั้ง ให้เกิดการทำงานที่แม่นยำรวดเร็วและสร้างความน่าเชื่อถือ ซึ่งปัจจุบัน กกต.มีความสนใจที่เริ่มใช้เครื่องเลือกตั้งแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Voting Machine – EVM) แทนการกาบัตรเลือกตั้งแบบปกติ ซึ่งได้มีการใช้จริงในการเลือกตั้งคณะกรรมการดำเนินงานของสหกรณ์ออมทรัพย์หลายแห่งการเลือกตั้งคณะกรรมการชุมชน รวมทั้งการเลือกตั้งประธานนักเรียน ซึ่งเป็นที่ยอมรับและได้รับความไว้วางใจจากผู้เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังทำให้ไม่เกิดบัตรเสียอีกด้วย

                สำหรับวิธีการผ่อนคลายความเครียดจากแรงกดดันของประชาชนในการทำงานนี้ คุณหนึ่ง บอกว่ามักจะทำอยู่สองอย่างคือไปเที่ยวในชุมชนต่างๆ ดูวิถีชีวิตท้องถิ่น เดินตลาดชุมชนในตอนเช้า ซึ่งเราจะได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ อาหารการกินในชุมชนเหล่านั้น ซึ่งทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจเสมอ อีกทั้งเป็นคนชื่นชอบในการปลูกต้นไม้เป็นอย่างมาก เมื่อได้เห็นการเจริญเติมโตของต้นไม้ที่เราปลูกจะรู้สึกปลาบปลื้ม บางครั้งได้รับประทานผลของต้นไม้ที่ปลูกแม้ไม่ได้อร่อยไปกว่าที่ซื้อหามา แต่เป็นความภาคภูมิใจที่ได้เห็นผลสำเร็จ โดยชีวิตหลังเกษียณคาดหวังว่าจะกลับไปอยู่บ้านสวนที่บ้านเกิดอีกครั้ง

คุณหนึ่ง บอกด้วยว่า เป็นคนหนึ่งที่เชื่อในปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นอย่างมาก ซึ่งมิใช่เพียงหลักการทางเศษฐศาสตร์แต่เป็นหลักการที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการดำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นหลักการเรื่องความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภูมิคุ้นกันที่ดี ล้วนแล้วแต่สามารถนำมาใช้ในชีวิตเราได้เป็นอย่างทั้งในเรื่องการทำงานและการดำเนินชีวิต

“เชื่อว่าการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ ต้องเริ่มจากการพัฒนาคน ไม่ว่าระบบออกแบบมาดีอย่างไร ถ้าคนในระบบยังไม่ดีพอ การพัฒนาก็เกิดขึ้นได้ยาก ดังนั้น การปฏิบัติงานของผมจึงยึดแนวคิดของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่เรียกว่า “ระเบิดจากข้างใน” เพราะผมเชื่อว่าหากต้องการให้สังคมดีมีการพัฒนา จะต้องเริ่มจากพัฒนาที่ตัวเราเองก่อน โดยการพัฒนาความรู้ความสามารถของเราอย่างต่อเนื่องทั้งทางด้านวิชาการและทักษะอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ในการบริหารงาน รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้กับการบริหารงานให้มีความถูกต้อง แม่นยำ และสะดวกรวดเร็วมากขึ้น สร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ในองค์กรของเรา เสริมสร้างการทำงานเป็นทีม สร้างความสุขในการปฏิบัติงานให้เกิดขึ้นแก่บุคลากรในองค์กร แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อให้องค์กรมีศักยภาพที่สามารถไปสร้างประชาชนในชุมชนให้มีความเป็นพลเมืองมากยิ่งขึ้น พลเมืองก็คือคนในสังคมที่มีความรู้และมีวิถีชีวิตประชาธิปไตย และเมื่อมีพลเมืองที่ดีก็จะทำให้การเมืองดี เมื่อการเมืองดีสังคมและประเทศชาติย่อมมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน”นายณัฐวรรธน์  กล่าวทิ้งท้าย