พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ครั้งที่ 3/2565 ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
โดยที่ประชุมได้รับทราบการดำเนินงานที่สำคัญ อาทิ ความก้าวหน้าการติดตามการแก้ไขปัญหามลพิษ กรณีโรงงานของ บริษัท วิน โพรเสส จำกัด อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ซึ่ง ทส.ได้ดำเนินการประสานงานกับ อัยการ จ.ระยอง และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการทางกฎหมาย และรับทราบความคืบหน้าผลการดำเนินงานเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติภัย สารเคมี บทเรียนจากเหตุเพลิงไหม้
กรณี โรงงานผลิตเม็ดโฟม และพลาสติกบริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด จ.สมุทรปราการ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ร่วมกันพิจารณามาตรการป้องกันเพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นอีกในอนาคต
ทั้งนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำข้อเสนอแนะไปยัง 4 ภาคส่วน ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้ประกอบการ ,หน่วยงานรัฐ (กำกับดูแล) ,หน่วยงานรัฐ (สนับสนุน) และภาคประชาชน
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มีการพิจารณา ด้านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) จำนวน 2โครงการ ได้แก่ 1) โครงการต่อเชื่อม ถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 กับสะพานพระราม 8 ของสำนักการโยธา กทม.
เพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัด รวมระยะทาง 3.5 ก.ม. 2) โครงการก่อสร้างสะพานข้ามทะเลสาบสงขลา ต.เกาะใหญ่ อ.กระแสสินธุ์ จ.สงขลา – ต.จองถนน อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง ของกรมทางหลวงชนบท เพื่อเพิ่มช่องทาง ความสะดวกในการสัญจร ข้ามทะเลสาบสงขลา รวมระยะทาง 7ก.ม. รองรับการส่งเสริมเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในพื้นที่ และได้เห็นชอบ
นโยบายการบริหารงานที่สำคัญ คือ (ร่าง) แนวทางปฏิบัติงานเพื่อขับเคลื่อนการจัดการ “พื้นที่สีเขียว” อย่างยั่งยืน ระยะที่ 2 (พ.ศ.2566-2570) ซึ่งประกอบด้วย 4 แนวทางได้แก่ 1) ให้ทุกภาคส่วนมีจิตสำนึกและหน้าที่ในการจัดการพื้นที่สีเขียว 2)
ให้เมืองมีความมั่นคงทางอาหาร สามารถรองรับภัยพิบัติและมีฐานทรัพยากร เพื่อเอื้อต่อการดำรงชีวิตของประชาชน 3) มีเครื่องมือ กลไกเพื่อเอื้อต่อการเพิ่มและการจัดการพื้นที่สีเขียว
และ 4)ให้ตระหนักในภูมิปัญญาท้องถิ่นและส่งเสริมนวัตกรรม เพื่อสร้างพลังทางสังคม รวมทั้งเห็นชอบ(ร่าง)แผนปฏิบัติการด้านการจัดการ”ขยะ”ของประเทศ ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2565-2570) ประกอบด้วย 3มาตรการ ได้แก่ 1)การจัดการขยะที่ต้นทาง 2)การเพิ่มประสิทธิภาพระบบกำจัดขยะ และ 3)การพัฒนาเครื่องมือ การบริหารจัดการขยะ
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ ทส.และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เร่งติดตามโครงการที่ยังดำเนินการล่าช้าและกำกับ ขับเคลื่อนโครงการที่ผ่านความเห็นชอบแล้ว ให้เป็นไปตามมาตรการฯในรายงาน EIA อย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ของประเทศ และเพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิต และสุขอนามัยของประชาชน อย่างทั่วถึง และยั่งยืน พร้อมทั้ง ต้องสร้างการรับรู้ให้ประชาชนได้ทราบเพื่อให้การดำเนินงานมีความเข้าใจและเกิดประโยชน์ร่วมกัน ต่อไป