ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
ชาวมอญบ้านวังกะ นักท่องเที่ยว กว่า 3000 คน ร่วมกันปล่อยเรือ ในงานบุญลอยเรือสะเดาะเคราะห์ งานบุญเดือนสิบ
11 ก.ย. 2565

ชาวมอญบ้านวังกะ นักท่องเที่ยว กว่า 3000 คน ร่วมกันปล่อยเรือ ซึ่งเป็นกิจกรรมสุดท้ายในงานบุญลอยเรือสะเดาะเคราะห์  งานบุญเดือนสิบ

วันนี้ 11 ก.ย. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานเจดีย์พุทธคยา (วัดวังวิเวการาม) ตำบลหนองลู  อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี  ชาวมอญบ้านวังกะ  พร้อมด้วยนักท่องเที่ยว รวมกว่า 3,000 คน ร่วมงานบุญลอยเรือสะเดาะเคราะห์ กลางเดือน 10 ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปราย ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายของงานฯ
 
โดยเริ่มขึ้นด้วยด้วยการช่วยกันลากจูงเรือซึ่งทำจากไม้ไผ่ขนาด4*10 เมตร สูงกว่า 5 เมตร ที่ภายใน บรรจุอาหารคาวหวาน น้ำและผลไม้  รวมทั้งธง ตุงกระดาษ ที่ทุกคนมาใส่ไว้ในเรือ ออกจากลานหน้าเจดีย์พุทธคยา ไปยังบริเวณสามสบ จุดที่แม่น้ำสายสำคัญทั้ง 3 (ซองกาเลีย รันตี บี่คลี่ )ไหลมาบรรจบกัน ซึ่งอยู่ด้านหลังเจดีย์พุทธคยา 

ก่อนจะช่วยกันชักลากเรือลงน้ำโดยใช้เรือลากจูงและใช้กำลังและความศรัทธาของชาวบ้านช่วยกันดันและรากเรือลงน้ำจนสำเร็จในที่สุด ท่ามกลางสายตานักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เช่าเหมาเรือมาติดตามชมพิธีและขั้นตอนในการปล่อยเรือ พร้อมทั้งบันทึกภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก นอกจากนั้นยังมีรายการสารคดี จากสถานีโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์ มาร่วมถ่ายทำพิธีการปล่อยเรือฯในวันนี้ 

ส่วนการปล่อยเรือในวันสุดท้ายของงานบุญลอยเรือสะเดาะเคราะห์ของชาวมอญสังขละบุรี ซึ่งตรกับแรม 1 ค่ำเดือนสิบ ของทุกปี ซึ่งเป็นงานบุญที่ทำเป็นพุทธบูชาแล้ว ยังเป็นการทำทานที่ยิ่งใหญ่ เนื่องจากในอดีตชุมชนต่างๆมักตั้งเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ การเดินทางก็จำเป็นต้องอาศํยเรือ-แพ ล่องไปตามสายน้ำ ซึ่งมีโอกาสที่จะประสบอุบัติเหตุเรือล่ม แล้วต้องติดค้างอยู่ริมน้ำกลางป่า เพราะฉะนั้นการที่ปล่อยเรือซึ่งภายในบรรจุ อาหาร น้ำดื่ม รวมทั้งสิ่งของเครื่องใช้ จึงมีโอกาสที่ผู้ยากไร้ที่อาศัยอยู่ริมน้ำ รวมทั้งผู้ที่ประสบเหตุเรือ-แพ ล่มติดอยู่กลางป่า สามารถนำสิ่งของที่อยู่ในเรือนั้นมาใช้เพื่อเอาชีวิตรอดไปได้  จึงถือเป็นการทำทานที่มีอานิสงส์สูงส่ง
 
สำหรับความเป็นมาของประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ของคนมอญ ว่ากันว่าเกิดขึ้นเมื่อครั้งพระเจ้าธรรมเจดีย์ขึ้นครองราชย์ปกครองอาณาจักรมอญ เมืองหงสาวดี พระองค์ทรงเห็นพระภิกษุสามเณรในเมืองมอญหงสาวดี มีความประพฤติย่อหย่อนต่อพระธรรมวินัย พระพุทธศาสนาในเมืองมอญเกิดมลทินด่างพร้อยมากมาย จึงมีพระราชประสงค์จะสังคายนาพระพุทธศาสนาในเมืองมอญเสียใหม่ เพื่อชำระหมู่พระภิกษุสงฆ์ให้มีความบริสุทธิ์

พระเจ้าธรรมเจดีย์มีพระราชโองการรับสั่งให้พระภิกษุสามเณรในเมืองมอญลาสิกขาเสียทั้งหมดทั้งประเทศ แล้วทรงส่งปะขาวถือศีล 8 คณะหนึ่ง ซึ่งก็คืออดีตพระเถระผู้ทรงพระไตรปิฎก ทรงความรู้ ตั้งมั่นในศีล ที่พระองค์มีคำสั่งให้ลาสิกขามาถือศีล 8 เป็นปะขาวนั่นเอง ออกเดินทางไปยังประเทศศรีลังกา เพื่อให้ไปถือการอุปสมบทเป็นพระภิกษุมาใหม่จากคณะสงฆ์ในประเทศศรีลังกา เสร็จแล้วให้เดินทางกลับมาเป็นอุปัชฌาย์อาจารย์ บวชให้แก่คนมอญในเมืองมอญเสียใหม่

คณะของปะขาวนี้ เมื่อเดินทางถึงประเทศศรีลังกาได้รับการอุปสมบทแล้วก็เดินทางกลับ ในระหว่างทางที่เดินทางกลับนั้น เรือสำเภาลำหนึ่งในจำนวนสองลำโดนพายุพัดให้หลงทิศไป ส่วนอีกลำหนึ่งเดินทางมาถึงเมืองหงสาวดีโดยปลอดภัย เมื่อทราบถึงพระกรรณของพระเจ้าธรรมเจดีย์ พระองค์จึงมีรับสั่งให้ทำเรือจำลองขึ้นมา ข้างในบรรจุด้วยของเซ่นไหว้บูชาเหล่าเทวดาทุกหมู่เหล่า ด้วยเครื่องเซ่นไหว้นั้น ให้เหล่าเทวดาทั้งหลาย ที่ดูแลพื้นดินก็ดี ที่ดูแลพื้นน้ำก็ดี ที่ดูแลพื้นอากาศก็ดี ได้มาช่วยปัดเป่าให้เรือสำเภาที่หลงทิศไปนั้น ได้เดินทางกลับมาโดยปลอดภัย หลังจากที่พระองค์ทรงทำพิธีสะเดาะเคราะห์แล้วไม่กี่วัน เรือที่หลงทิศนั้นก็เดินทางกลับมาถึงเมืองหงสาวดีโดยปลอดภัย ชาวมอญจึงถือเอาเหตุการณ์นี้ทำพิธีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ในช่วงกลางเดือน 10 ของทุก ๆ ปี สืบต่อกันมาตราบจนปัจจุบันนี้

สำหรับประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ในช่วงวันขึ้น 14-15 ค่ำ และแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการบูชาเทวดาที่อยู่ในน้ำ ในป่า และบนบก อีกทั้งเพื่อสืบสานประเพณีดั้งเดิมของกลุ่มชน ตลอดทั้งเป็นการเผยแพร่ประเพณีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ให้แก่ชุมชน ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้ศึกษาเรียนรู้

กิจกรรมในงาน ได้แก่ การเจริญพระพุทธมนต์โดยพระสงฆ์, การบูชาเรือ โดยนำธงกระดาษ และอาหารคาวหวาน 9 อย่าง ไปบูชาเรือ, การสะเดาะเคราะห์ต่ออายุ โดยการนำธูปเทียน ตามกำลังวันเกิด ไปไหว้ และสะเดาะเคราะห์เพื่อจะมีการเผาธูปเทียนในวันสุดท้ายของงาน, การเล่นโคม ปล่อยโคม, การตักบาตรน้ำตาลทราย น้ำผึ้ง, การเลี้ยงอาหารคาวหวานแก่ผู้มาร่วมงาน และการนำเรือไปลอยที่แม่น้ำสามประสบ ซึ่งเป็นกิจกรรมสุดท้ายของงานบุญลอยเรือสะเดาะเคราะห์ของชาวมอญสังขละบุรี



ทีมข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา   ไหลวารินทร์

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...