วันนี้ 19 ต.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสามารถ ประสิทธิ์ผล ปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี เดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบโค-กระบือแก่เกษตกรบ้านเวียคะดี้ หมู่ที่ 5 ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี 

โดยมีนายนรภัทร รัตนวรายุทธ ปลัดอาวุโสอำเภอสังขละบุรี นายรังสิมันต์ ทองสวัสดิ์ สาธารณสุขอำเภอสังขละบุรี นายภูวพล รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองลู นายนาธาร ปานอุทัย ปศุสัตว์อำเภอสังขละบุรี ผู้นำชุมชนและเกษตรกร ให้การต้อนรับ

โดยนายนาธาร ปานอุทัย ปศุสัตว์อำเภอสังขละบุรีได้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ เพื่อช่วยให้เกษตรกรที่ยากจน ทั่วประเทศได้มีโค-กระบือไว้ใช้แรงงาน และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เป็นการช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยแนวทางการการดำเนินโครงการ

1. เพื่อสนองพระราชดำริ ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท โดยสนับสนุนและส่งเสริมเกษตรกรในโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรพอเพียง และเกษตรผสมผสาน ตามแนวพระ ราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งโค-กระบือ ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งต่อการประกอบอาชีพการเกษตรของเกษตรกร
2. สนับสนุนการบริหารจัดการโครงการ โดยให้ชุมชนมีส่วนร่วม เน้นให้เกิดชุมชนหรือหมู่บ้านที่มีส่วนร่วมในการกำกับดูแลกันเองในชุมชนนั้น ๆ เพื่อเป็นการสร้างความเข้มแข็งในชุมชน และเกิดความยั่งยืน

จังหวัดกาญจนบุรี ได้ดำเนินโครงการธนาคารโค-กระบือ เพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ ในพื้นที่ โดยให้เกษตรกร ทำสัญญายืมเพื่อการผลิต โดยมีเงื่อนไขว่า เมื่อลูก โค-กระบือตัวแรก อายุครบ 18 เดือน ให้ส่งคืน โครงการ ฯ ส่วนลูก โค-กระบือตัวต่อไปให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของ เกษตรกร และเมื่อยืมแม่โค-กระบือครบ 5 ปี ให้ยกแม่ โค-กระบือดังกล่าวตกเป็นกรรมสิทธิ์ของเกษตรกรผู้ยืมโดยวันนี้โครงการได้มอบแม่โคสาวลูกผสมพันธุ์พื้นเมืองและโคสายพันธุ์อเมริกันบราห์มัน ให้กับเกษตรกรทั้งหมด 23 ตัว 

ขณะที่นายสามารถ ประสิทธิ์ผล ปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าโครงการธนาคารโค-กระบือเพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริ เป็นโครงการหนึ่งของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชดำริ ให้จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้มีโค-กระบือไว้ใช้งาน และเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร โดยกรมปศุสัตว์เป็นผู้ดำเนินการและเป็นศูนย์รวมในการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากจนที่มาชีพในการทำไร่ทำนาได้อย่างแท้จริง

ธนาคารโค-กระบือ ก็คือการรวบรวมโคและกระบือ โดยมีบัญชีควบคุมดูแลรักษา แจกจ่ายให้ยืมเพื่อใช้ประโยชน์ในการเกษตร และเพิ่มปริมาณโคและกระบือ ตามหลักการของธนาคารซึ่งโค-กระบือเป็นปศุสัตว์ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจและทำรายได้ให้แก่ผู้เลี้ยง แต่ปัจจุบันเกษตรกรใช้สารเคมีใช้เครื่องทุ่นแรงในการทำการเกษตร ทำให้มีต้นทุนในการผลิต เกิดปัญหาหนี้สิน ปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม เกิดมลพิษกระจายทั่วทั้งดินและน้ำ ทำให้ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมลำบากมากขึ้น ไม่สามารถหากินอาหารธรรมชาติได้ ต้องหาเงินซื้อทุกอย่าง

รัฐบาลมีนโยบายให้เกษตรกรทำการเกษตรแบบยั่งยืน หรือเกษตรแบบผสมผสานตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ผลิตแบบหลากหลาย เพื่ออยู่ เพื่อกิน ตามแนวพระราชดำริ มุ่งเน้นให้ลดค่าใช้จ่ายด้านปัจจัยการผลิต ซึ่งเป็นทางเลือกที่สำคัญของเกษตรกร โดยเฉพาะวิถีเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นระบบการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รักษาสมดุลของธรรมชาติ ละ ลด เลิก การใช้สารเคมี รวมถึงการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์

โค-กระบือ เป็นส่วนสำคัญในการเกื้อกุลกับระบบเกษตรอินทรีย์ และเกื้อกุลกิจกรรมในไร่นา มูลของโค-กระบือ เป็นปัจจัยสำคัญในการผลิตเกษตรอินทรีย์ ทำให้เกษตรกรเกิดการพึ่งพาตนเอง และฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โค-กระบือเป็นหลักประกันความเสี่ยงของครอบครัว เป็นแหล่งรายได้ เป็นการออมเงิน เป็นทรัพย์สินในครัวเรือน เกษตรกรสามารถนำแรงงานโค-กระบือ มาใช้ในกระบวนการผลิตแทนเครื่องยนต์เพื่อลดรายจ่าย ที่สำคัญมูลของโค-กระบือ สามารถนำมาเป็นปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนในการผลิต ซึ่งหากเกษตรกรสนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอในพื้นที่หรือจะติดต่อโดยตรงได้ที่กลุ่มส่งเสริมปศุสัตว์สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดกาญจนบุรีได้

ทีมข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา  ไหลวารินทร์