ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
สิทธิตรทอง ตรวจแล็บใกล้บ้าน 24 รายการ ฟรี
02 ก.ค. 2566

สปสช.เตรียมเดินหน้า Lab Anywhere บริการตรวจแล็บใกล้บ้าน ให้บริการผู้มีสิทธิบัตรทอง 24 รายการ เริ่มให้บริการเร็วๆ นี้ นายกสภาเทคนิคการแพทย์หนุน

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในปี 2566 สปสช. ได้มีการสนับสนุนการให้บริการที่ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชนผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) โดย “บริการตรวจทางห้องปฏิบัติการหรือแล็บ ณ คลินิกเทคนิคการแพทย์ที่เข้าร่วมให้บริการใกล้บ้าน (Lab Anywhere)” เป็นหนึ่งในบริการที่ สปสช. ได้ร่วมกับสภาเทคนิคการแพทย์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองหรือบัตร 30 บาท

และช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล ที่ผ่านมาได้มีการจัดประชุมชี้แจงแนวทางการร่วมให้บริการผ่านระบบประชุมออนไลน์ ซึ่งมีตัวแทนจากสภาเทคนิคการแพทย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการคลินิกเทคนิคการแพทย์จากทั่วประเทศเข้าร่วมรับฟัง

ภาพรวมของบริการ Lab Anywhere นี้ คลินิกเทคนิคการแพทย์จะเป็นเครือข่ายการให้บริการกับหน่วยบริการ โดยมี สปสช.เขต เป็นผู้จัดเครือข่าย โดยคลินิกเทคนิคการแพทย์ ที่เข้าร่วมให้บริการ จะให้บริการเจาะเลือด เก็บสิ่งส่งตรวจ พร้อมทำการตรวจวิเคราะห์ผล ทั้งกรณีมารับบริการที่คลินิกเทคนิคการแพทย์ หรือให้ไปเจาะเลือดที่บ้านใน พร้อมทำการตรวจวิเคราะห์ผลแล็บ ซึ่งจะให้บริการกรณีผู้ป่วยนอก (OP) จำนวน 22 รายการ และบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (PP) จำนวน 2 รายการ 

ผู้ป่วยนอกกลุ่มเป้าหมาย 

      กลุ่มเป้าหมายกรณีผู้ป่วยนอก (OP) มีกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีใบสั่งการตรวจทางห้องปฏิบัติการจากหน่วยบริการที่ดูแล ทั้งกรณีมารับบริการที่คลินิกเทคนิคการแพทย์ หรือที่บ้าน โดยการรับบริการเก็บสิ่งส่งตรวจที่บ้าน จะเป็นกรณีที่ไม่สามารถมารับบริการที่สถานพยาบาลได้ เช่น ผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่นอนติดเตียง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผู้ป่วยชรา ผู้ป่วยที่มีภาวะพึ่งพิง หรือกรณีมีความจำเป็น

    ส่วนบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค กำหนดให้บริการ 2 รายการ คือ

1. บริการตรวจทดสอบปัสสาวะ ในกรณีสงสัยว่าการตั้งครรภ์

2. บริการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง ด้วยวิธีการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระ สำหรับประชาชนอายุ 50-70 ปี ทุก 2 ปี
        ทั้ง 2 รายการนี้ ประชาชนตามกลุ่มเป้าหมาย สามารถเข้ารับบริการได้ที่คลินิกเทคนิคการแพทย์ที่ร่วมโครงการได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งการตรวจทางห้องปฏิบัติการ

       ส่วนอัตราการชดเชยค่าบริการนั้น จะชดเชยเป็นค่าบริการเก็บสิ่งส่งตรวจ และค่าตรวจวิเคราะห์ผลทางห้องปฏิบัติการตามรายการบริการที่ สปสช.กำหนด (Fee schedule) ส่วนกรณีเก็บสิ่งส่งตรวจที่บ้านจ่ายเพิ่มเติม 80 บาท ทั้งนี้จะไม่สามารถเรียกเก็บเพิ่มเติมจากผู้รับบริการได้ 
สภาเทคนิคการแพทย์เห็นด้วย

           ทนพ.สมชัย เจิดเสริมอนันต์ นายกสภาเทคนิคการแพทย์ กล่าวว่า บริการ Lab Anywhere เป็นการเสริมบทบาทของวิชาชีพเทคนิคการแพทย์ ในการร่วมดูแลสุขภาพประชาชน ซึ่งในส่วนของสภาฯ ได้มีการนำร่องการตรวจประเมินรับรองคุณภาพคลินิกเทคนิคการแพทย์ ที่จะเข้ามาเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ รวมทั้งกำกับติดตามคุณภาพการให้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่สถานพยาบาลที่ส่งต่อคนไข้มารับบริการ
         โดยบริการ Lab Anywhere ยังได้รับการสนับสนุนจาก สมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทย ในการร่วมให้ความรู้ต่างๆ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล ดำเนินการในเรื่องการทดสอบความชำนาญ และบริษัทเอกชนที่ช่วยในเรื่องการสอบเทียบเครื่องมือต่างๆ 

          สภาฯ เริ่มหารือการจัดบริการของคลินิกเทคนิคการแพทย์ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2565 ทั้งเรื่องการวางระบบ รับรองคุณภาพ และการเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการกับ สปสช. จนกระทั่งเดือน ต.ค. 2565 คณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ สปสช. ได้เห็นชอบให้ดำเนินการบริการ Lab Anywhere และจัดทำประกาศหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีแผนเริ่มเปิดบริการเร็วๆ นี้ ปัจจุบันมีคลินิกเทคนิคการแพทย์ที่ผ่านการรับรองและขึ้นทะเบียนกับ สปสช. แล้ว 26 แห่ง และมีคลินิกเทคนิคการแพทย์อีกหลายแห่งที่อยู่ระหว่างการสมัครเข้าร่วมเป็นหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

         ทั้งนี้ คลินิกเทคนิคการแพทย์ที่จะร่วมให้บริการต้องผ่านการรับรองมาตรฐานสภาเทคนิคการแพทย์ (LA; Laboratory Accreditation) หรือ มาตรฐานห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (MOPH ) หรือ มาตรฐานราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย หรือ มาตรฐาน ISO 15189 ) และผ่านการพิจารณาการเข้าร่วมให้บริการจากสภาเทคนิคการแพทย์ก่อน จึงจะสามารถสมัครเข้าร่วมเป็นให้บริการได้ 
แล็บ 22 รายการใน 9 หมวด

         บริการกรณีผู้ป่วยนอก (OP) จำนวน 22 รายการ ตามหมวดหมู่ดังนี้  
1.การตรวจหาความเข้มข้น และความผิดปกติของเม็ดเลือด (Complete Blood Count: CBC ) 
2.การตรวจระดับน้ำตาลในเลือด (Blood Sugar) 
3.การตรวจน้ำตาลสะสม (HbA1C)
4.การตรวจระดับไขมันในเลือด (Lipid Profile: Cholesterol, HDL, LDL, Triglyceride) 
5.ตรวจการทำงานของตับ (Liver Function Test : SGOT, SGPT, ALK, Total Protein, Total bilirubin, Direct bilirubin, Albumin)
6.การตรวจหาค่ากรดยูริก (Uric Acid) 
7.การตรวจการทำงานของไต (BUN, Creatinine)
8.การตรวจปัสสาวะ (Urinalysis) 
9.การตรวจไวรัสตับอักเสบบี (HBsAg)  

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...