7  กันยายน  2560 นางมัลลิกา  บุญมีตระกูล  มหาสุข  รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าว ทวงเงิน 76,000 ล้านบาท จากเอกชน เพื่อคืนให้กระทรวงดีอี หรือกระทรวงไอซีทีเดิม และองค์การโทรศัพท์( TOT )เพื่อฟื้นสภาพรัฐวิสาหกิจไทย และนำรายได้ทั้งหมดส่งคืนแผ่นดิน  ซึ่งมีระบุชัดเจนในท้ายคำพิพากษาศาลคดีแก้ไขสัญญาปรับลดอัตราส่วนแบ่งรายได้โทรศัพท์มือถือแบบจ่ายล่วงหน้า (พีแพต)

( เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษายึดทรัพย์มูลค่า 4.6 หมื่นล้านบาท และให้ตกเป็นของแผ่นดิน เป็นหนึ่งในคดีร่ำรวยผิดปกติของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งทรัพย์สิน 4.6 หมื่นล้านบาทนั้น ในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ได้ดำเนินการยึดเงินคืนมาเรียบร้อยแล้ว  ส่วนมูลค่าความเสียหายอีกจำนวนกว่า 7.6 หมื่นล้านบาท เป็นหน้าที่ของหน่วยงานรัฐต้องติดตามเอาคืนกับเอกชน ตรงจุดนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลเสียก่อน)

รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวต่อว่า ท้ายคำพิพากษาศาลในคดีนี้ จะระบุไว้ชัดเจนว่าเกิดความเสียหายจากคดีอาญา หรือจากการทุจริต  จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะต้องติดตาม ซึ่งนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 จนถึงปัจจุบัน  ยังไม่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ICT หรือ DE รายใด หรือ ปลัดกระทรวงรายใดติดตามค่าเสียหายนี้คืนแผ่นดินนี้เลย 

“นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กับ นายอภิศักดิ์  ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีหน้าที่หารายได้เข้ารัฐ และที่ผ่านมา 3 ปีรัฐบาลนี้ก็ถูกวิจารณ์ว่าขาดศักยภาพในการสร้างรายได้ และหารายได้เข้ารัฐ แต่โดยหน้าที่แล้วทุกคนลืม หรือละเว้นก็ว่าได้ในการติดตามค่าเสียหายตามท้ายคำพิพากษาศาลเพื่อนำรายได้ที่สมควรเข้าแผ่นดิน” รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์  กล่าว

พร้อมกันนี้ นางมัลลิกา ได้เสนอให้ พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งองค์กรขึ้นมาเฉพาะเพื่อติดตามทวงคืนค่าเสียหายเหล่านั้น อาจจะเป็นอัยการ หรือ ราชการ ที่เกี่ยวข้อง  เป็นองค์คณะเพื่อติดตามทวงค่าเสียหาย โดยถูกต้องตามกฎหมายเหล่านี้  กับเอกชน ข้าราชการ และนักการเมืองที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการทุจริต และมีคำพิพากษาศาลแล้ว

ยกตัวอย่าง เช่น คดีใบกำกับภาษีปลอม คดีทีโอทีรายได้ขาดหายไป 7 หมื่นล้านบาท คดีสัญญาดาวเทียมที่ต้องชำระหนี้ และค่าเสียหายทั้งหมดด้วย   ถ้านายกรัฐมนตรีไม่สั่งการ ไม่มีผู้ใดเริ่มต้น จะได้หารือทางฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ นำเรื่องนี้ไปฟ้องต่อศาลทุจริตต่อไป ถึงนาทีนั้นใครจะโดยมาตรา 157 อันนี้ก็เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย" นางมัลลิกา กล่าว