ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คอลัมนิสต์ประจำอปท.นิวส์ ย้อนกลับ
เก็บตก APEC 2023 ข้อสรุปของสองผู้แบกโลก
01 ธ.ค. 2566

         ระหว่างวันที่ 11-17 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา  ณ นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation : APEC) หรือ APEC 2023  ในหัวข้อ "การสร้างอนาคตที่ยืดหยุ่นและยั่งยืนสําหรับทุกคน"   โดยผู้นำและผู้แทนระดับสูงของ 21 เขตเศรษฐกิจได้เข้าร่วมเวทีประชุมสุดยอดผู้นำ APECระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน

APEC เป็นกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจชั้นนำของภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก ประกอบด้วย 21 เขตเศรษฐกิจสมาชิก ครอบคลุมร้อยละ 38 ของประชากรโลก  ร้อยละ62 ของ GDP โลก และร้อยละ 48 ของมูลค่าการค้าโลก

          APEC คือองค์กรทางเศรษฐกิจและการค้าแห่งแรกที่จีนเข้าร่วมนับตั้งแต่จีนดำเนินการปฏิรูปและเปิดประเทศเมื่อ 45 ปีที่แล้ว

นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศสมาชิกAPEC จะชะลอตัวลงจาก 3.3% ในปี 2566 เหลือ 2.8% ในปี 2567 และ 2.9% ในปี 2568  จากปัญหาเงินเฟ้อ  หนี้สาธารณะ  การกีดกันทางการค้า และปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์

ไฮไลต์ของงานคือการพบกันของสองผู้ยิ่งใหญ่ของโลก  ระหว่าง โจไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ผู้เป็นเจ้าภาพ กับ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน  แขกผู้ไปเยือน  เพราะอย่างที่โลกรู้ว่าสองมหาอำนาจนี้เป็นทั้งคู่ค้าทางเศรษฐกิจคู่แข่งขันทางเทคโนโลยี  และ “คู่กัด”ในด้านการเมืองระหว่างประเทศ

การเดินทางไกลไปเยือนสหรัฐฯเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีของสี จิ้นผิงเพื่อพบกับโจไบเดน ในรอบ 1 ปีโดยครั้งหลังสุดในเวทีG20 ที่บาหลี อินโดนีเซีย  จึงมีความหมายต่อทั้งสองฝ่ายและต่อโลกทั้งใบที่ต้องรับผลกระทบจากความสัมพันธ์ของสองมหาอำนาจ

จากการได้นั่งคุยแบบทวิภาคี 4 ชั่วโมงมีข้อสรุปชัดๆ 3 ประการที่เปิดเผยต่อสาธารณชนคือ 1.ฟื้นช่องทางการสื่อสารของกองทัพสองฝ่าย  2.ความร่วมมือในการลดปัญหายาเสพติด (เฟนทานิล) ที่กำลังระบาดหนักไปทั่วสหรัฐฯจนกลายเป็นวิกฤติที่สหรัฐฯกำลังเผชิญอยู่เพราะทำท่าจะควบคุมไม่ได้และนับวันจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นโดยจีนจะช่วยคุมการส่งออกสารเคมีตั้งต้นที่ผลิตในจีน   3.การใช้Ai อย่างปลอดภัย

การกลับมาเชื่อมต่อทางด้านการทหารอีกครั้งเชื่อว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการลดความตึงเครียดที่เผชิญหน้ากันอยู่  เป็นการซ่อมแซมความสัมพันธ์ที่ตกต่ำสุดๆนับตั้งแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ในปี 2522   โดยเฉพาะเรื่อง “ไต้หวัน” ที่ประธานาธิบดีไบเดนปล่อยให้นางแนนซี เพโลซี  ขณะดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เดินทางไปเยือนอย่างออกหน้าออกตา 

ช่วงเวลานั้นมีการโหมประโคมข่าวพบปะจับมือกับประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินทั้งๆที่รู้ว่าเป็นการหักหน้ารัฐบาลจีนอย่างร้ายแรง  ทั้งๆที่รู้ว่าเป็นการยั่วยุให้เกิดสงครามระหว่างจีน-ไต้หวัน และบั่นทอนความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯอย่างที่สุด

สถานการณ์ช่วงนั้นมีการสุมไฟว่าสหรัฐอเมริกาผู้กำหนดระเบียบโลกเก่ามองว่าจีนที่ออกมาเรียกร้องระเบียบโลกใหม่คือ ภัยคุกคาม”ที่ไม่อาจปล่อยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดได้อีกต่อไป  จึงมีมาตรการเตะสกัดต่างๆออกมาอย่างต่อเนื่อง

          เรื่องความร่วมมือจากจีนในการระงับการส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการผลิตยาเฟนทานิลที่มีส่วนผสมของฝิ่น ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการระบาดอยู่ในสหรัฐฯนั้นเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯคนหนึ่งมองว่าเป็นข้อตกลงที่สำคัญที่สุด เจ้าหน้าที่กล่าวว่าไบเดนบอกกับสี จิ้นผิงว่าเฟนทานิลเป็นหนึ่งในปัญหายาเสพติดที่เลวร้ายที่สุดที่สหรัฐเคยเผชิญ

“มันจะช่วยชีวิตผู้คนได้ และผมขอขอบคุณความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีสีในประเด็นนี้” ประธานาธิบดีไบเดนกล่าว

หนังซอมบี้ประเภทผีเดินได้ที่ฮอลลีวู้ดผลิตออกมาในภาคบันเทิง  วันนี้เกิดเป็นจริงในดินแดนสหรัฐฯเมื่อยาเสพติดที่ชื่อ “เฟนทานิล” (Fentanyl)ระบาดไปทั่วสหรัฐฯ  ว่ากันว่ายาตัวนี้มีความรุนแรงมากกว่าเฮโรอีน 50 เท่าอาการของผู้เสพเฟนทานิลที่เห็นในสารคดีไม่ต่างจากสภาพของซอมบี้ในภาพยนตร์เหมือนผีดิบที่ยืนโงนเงนอยู่ตามท้องถนน  อีกทั้งยังพบว่ามีผู้เสพจนเสียชีวิตแล้วนับแสนคน

สำหรับข้อตกลงด้านเทคโนโลยีที่จีนรู้สึกว่ากำลังถูกสหรัฐฯปิดล้อม  โดยสหรัฐฯอ้างว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงด้านการทหารนั้น   ผู้นำทั้งสองตกลงที่จะทำงานร่วมกันเพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าในด้านนี้

ไบเดนกล่าวว่า  เราอยู่ในความสัมพันธ์ของการแข่งขันระหว่างจีนกับสหรัฐฯ  แต่ความรับผิดชอบของผมคือการทำให้เป็นเหตุเป็นผลและจัดการได้เพื่อไม่ให้จบลงที่ความขัดแย้ง  ในการหาที่หาทางที่จะทำให้เราไปด้วยกันได้และมีผลประโยชน์ร่วมกัน  โดยเฉพาะผลประโยชน์ของชาวอเมริกัน

          เราจะรื้อฟื้นการติดต่อทางการทหาร  การติดต่อโดยตรง จากที่ถูกตัดขาดและทำให้เรื่องแย่ลง  และนั่งทำให้เกิดอุบัติเหตุและความเข้าใจผิดๆขึ้น

อย่างไรก็ตามผู้นำสหรัฐฯก็ยังกล่าวอย่างไว้เชิงว่า  สหรัฐอเมริกาจะเดินหน้าแข่งขันอย่างแข็งขันกับจีนต่อไป  แต่จะจัดการแข่งขันนั้นด้วยความรับผิดชอบเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งแบบไม่ได้ตั้งใจ  และเพื่อผลประโยชน์ที่ตรงกันของเราทั้งสอง

ไบเดน พยายามกล่าวคำคมว่า  ต้องไม่ให้การแข่งขันกลายเป็นความขัดแย้งที่ยากต่อการแก้ไข

          สีกล่าวว่า การหันหลังให้กันไม่ใช่ทางเลือกที่ดี  (และยังเชิญชวนบริษัทชั้นนำจากสหรัฐฯไปลงทุนในจีนมากยิ่งขึ้น)

คำกล่าวที่แหลมคมของสีคือ โลกใบนี้ใหญ่พอที่จะให้สองประเทศอยู่ร่วมกันและแบ่งปันความสำเร็จ  แม้จะแตกต่างกันอย่างมาก  ไม่จำเป็นต้องแข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตาย

          สีกล่าวด้วยว่า  จีนเต็มใจที่จะเป็นพันธมิตรและเพื่อนกับสหรัฐฯ  หลักการพื้นฐานของเราในเรื่องความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯคือการเคารพซึ่งกันและกัน  การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย  ท้ายสุดแล้วจีนและสหรัฐฯจะเป็นคู่แข่งหรือเป็นหุ้นส่วนกันนั้น  เป็นคำถามพื้นฐานและครอบคลุมตรรกะ 

         “มันง่ายมากหากฝ่ายหนึ่งมองว่าอีกฝ่ายเป็นคู่แข่งหลัก  เป็นความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์คนสำคัญ  หรือเป็นภัยคุกคามที่มากขึ้นเรื่อยๆ  ก็จะนำไปสู่นโยบายที่ผิดพลาด การกระทำที่ผิดพลาด และผลลัพธ์ที่ผิดพลาด”

แม้ว่าจะมีประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และระดับของการพัฒนาที่แตกต่างกัน แต่ผู้นำจีนก็เน้นย้ำว่า การแสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง คือแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับความร่วมมือระดับภูมิภาค

วันนี้โลกได้รับการลดอุณหภูมิลงด้วยท่าทีที่ไม่ก้าวร้าว  ด้วยท่าทีที่รับฟังกันมากขึ้นระหว่างผู้นำสองชาติ  และโลกได้แต่หวังว่ายังจะมีเวทีอื่นและมาตรการอื่นๆตามมาผสานรอยร้าวของจีน-สหรัฐฯให้สนิทกันยิ่งขึ้น

 

โลกของจีน / ชัยวัฒน์วนิชวัฒนะ

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...