กระทรวงเกษตรฯ รณรงค์ให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและปลูกพืชให้เหมาะสมกับพื้นที่ ตั้งเป้าลดการเผาในพื้นที่เกษตรลงร้อยละ 50 และสร้างรายได้เพิ่มจากพืชมูลค่าสูง
ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมประชุมหารือมาตรการจัดการไฟในพื้นที่เกษตรกรรม ร่วมกับพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยภายหลังการหารือดังกล่าว ได้กำหนดแนวทางและเร่งรัดการขับเคลื่อนตามมาตรการ “แก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ปี 2567” ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ ซึ่งตั้งเป้าหมายลดการเผาไหม้ในพื้นที่เกษตรกรรมลงร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ครอบคลุมพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ อาทิ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดตาก และจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น และพื้นที่อื่น ๆ ลดลงร้อยละ 10
“สำหรับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กำหนดแนวทางยกระดับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเผาในพื้นที่เกษตรกรรมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยจะต้องเตรียมการวางแผนล่วงหน้า ระบุพื้นที่เป้าหมายให้ชัดเจน สร้างกลไกการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน โดยมีภาคเอกชนสนับสนุนการแก้ไขปัญหาเพื่อลดข้อจำกัดด้านงบประมาณ กำหนดกลไก การทำงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคให้มีความชัดเจน และสอดคล้องกับกลไกของคณะกรรมการระดับชาติ โดยมีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลัก ซึ่งได้จัดทำมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ปี 2567 เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และปัญหาฝุ่นละอองในภาพรวมของประเทศ โดยเน้นการดำเนินงานเชิงรุกและเชิงรับ ภายใต้หลักการ 3R คือ 1) Re-Habit : ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยเกษตรกรทำการเพาะปลูกพืชชนิดเดิมแบบไม่เผาในทุกขั้นตอนการผลิต 2) Replace with high value crops : ปรับเปลี่ยนพืชบนพื้นที่สูง ให้เป็นการปลูกพืชที่ปลอดการเผาและลดการบุกรุกป่า จากการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นพืชที่มีมูลค่าสูง อาทิ กาแฟ มะคาเดเมีย อะโวคาโด มะม่วง เป็นต้น เพื่อสร้างรายได้จากพืชที่มีมูลค่าสูงอย่างยั่งยืน และ 3) Replace with Alternate crops : ปรับเปลี่ยนพืชบนพื้นราบ จากพื้นที่ไม่เหมาะสมปลูกข้าวปรับไปปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อส่งเสริมให้ปรับเปลี่ยนการปลูกพืชให้หมาะสมและสอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่ ลดใช้น้ำ ปลูกพืชแบบปลอดการเผา บริหารจัดการผลผลิตตลอดจนการจำหน่าย” รัฐมนตรีเกษตรฯ กล่าว
ทั้งนี้ จะขับเคลื่อนผ่านกลไกคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ( PM2.5) ภาคการเกษตร โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่กำหนดนโยบายมาตรการ และแนวทางการขับเคลื่อนป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ภาคการเกษตร รวมถึงพิจารณาระบบการบริหารจัดการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ภาคการเกษตรทั้งระบบได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย