ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
ครม. เห็นชอบร่างปฏิญญาร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ระหว่างไทยกับเยอรมนี
16 ม.ค. 2567



​ที่ประชุม ครม. เห็นชอบร่างปฏิญญาร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ระหว่างไทยกับเยอรมนี พร้อมลงนามช่วงการเยือนประเทศไทยของประธานาธิบดีเยอรมนี ระหว่างวันที่ 24-26 มกราคม 2567

วันนี้ (16 มกราคม 2567)  นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้ (16 มกราคม 2567) ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบร่างปฏิญญาร่วมแสดงเจตจำนงระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงการศึกษาและวิจัยแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมระหว่างกันให้มีทิศทางและความสอดคล้องกับประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย โดยจะมีการลงนามปฏิญญาร่วมฯ ในช่วงการเยือนประเทศไทยของประธานาธิบดีเยอรมนี ระหว่างวันที่ 24 - 26 มกราคม 2567
 
ร่างปฏิญญาร่วมฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
 
(1) เพื่อเป็นการแสดงเจตจำนงร่วมกันในการส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมในฐานะกลไกสำคัญสำหรับการพัฒนาด้านสังคมและเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ และเป็นกรอบการดำเนินความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมระหว่างกันบนพื้นฐานของความเท่าเทียมกัน เสรีภาพทางวิชาการและผลประโยชน์ร่วมกัน
 
(2) ไม่จำกัดสาขาความร่วมมือ โดยหัวข้อในแต่ละสาขาความร่วมมือจะเป็นไปตามความสนใจร่วมกันของทั้งสองฝ่าย ซึ่งจะกำหนดผ่านการประชุมและข้อตกลงในภายหลัง
 
(3) ครอบคลุมใน 10 กิจกรรม ได้แก่ 1) การประกาศรับข้อเสนอร่วมกันสำหรับโครงการด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี 2) การส่งคณะผู้เชี่ยวชาญ นักวิทยาศาสตร์ และนักวิจัย หรือผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ โดยฝ่ายเดียวหรือทั้งสองฝ่าย 3) การจัดประชุม สัมมนา ประชุมเชิงปฏิบัติการ ประชุมวิชาการและนิทรรศการร่วมด้านวิทยาศาสตร์ 4) การส่งเสริมให้นักวิจัยจากสถาบันวิจัยในสองประเทศดำเนินความร่วมมือในโครงการวิจัยร่วม 5) การแลกเปลี่ยนข้อมูล วัสดุ และเอกสารด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 6) การส่งเสริมให้นักศึกษาและสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาใช้ประโยชน์จากโครงการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือที่มีอยู่ รวมถึงใช้ประโยชน์จากโครงการแลกเปลี่ยนที่มีอยู่ของมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยเพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนของนักศึกษาระหว่างไทยและเยอรมนีอย่างต่อเนื่อง 7) การสร้างเครือข่ายระหว่างสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในไทยและเยอรมนี 8) การกำหนดรูปแบบอื่น ๆ ของความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกัน 9) การแลกเปลี่ยนข้อมูลกิจกรรม นโยบาย วิธีปฏิบัติ กฎหมายและข้อบังคับเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนา และ 10) การสนับสนุนกิจกรรมขององค์การแลกเปลี่ยนวิชาการเยอรมัน (Deutscher Akademischer Austauschdienst: DAAD) ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ ในฐานะสถาบันทางวิทยาศาสตร์ตามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวัฒนธรรม ค.ศ. 1983 ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลเยอรมนี
 
(4) ทั้งสองฝ่ายจะถ่ายทอดการสนับสนุนและการสร้างมาตรการในแต่ละสาขาความร่วมมือแก่ภาคีที่สาม เช่น หน่วยงานที่บริหารโครงการ องค์กรทางวิทยาศาสตร์หรือองค์กรสนับสนุนงบประมาณ ทั้งนี้ สามารถจัดทำร่างความตกลงว่าด้วยการดำเนินโครงการ โดยกำหนดสาขาความร่วมมือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติตาม รวมถึงข้อตกลงด้านงบประมาณ และเรื่องอื่น ๆ ที่เหมาะสมโดยการสนับสนุนงบประมาณของกิจกรรมตามปฏิญญาร่วมฯ อาจจะสร้างเป็นข้อตกลงแยกต่างหากหรือการประกาศทุนสนับสนุน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายจะแก้ไขข้อขัดแย้งใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการตามปฏิญญาร่วมฯ ฉบับนี้โดยการปรึกษาหารือกันฉันมิตร
 
(5) แก้ไขเมื่อใดก็ได้โดยความยินยอมร่วมกันเป็นลายลักษณ์อักษรของทั้งสองฝ่าย
 
(6) มีผลใช้บังคับในวันที่ลงนาม

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...