นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะโฆษกกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ตามที่ได้ปรากฏข่าวผ่านสื่อช่องทางต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์มิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงประชาชนที่เกิดขึ้นในหลายรูปแบบ ทั้งการหลอกให้โอนเงินไปให้ การล่อลวงให้กระทำความผิด เช่น การเปิดบัญชีให้ การชักชวนผู้อื่นเข้าร่วมกระบวนการ เป็นต้น ทำให้มีประชาชนหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อเป็นจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนและความเสียหายเป็นวงกว้าง ประกอบกับ ที่ผ่านมาศูนย์ดำรงธรรมกระทรวงมหาดไทย ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนผ่านระบบ Online ว่า ได้มีบุคคล/กลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเข้าข่ายแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวง โดยการชักชวนให้ประชาชนในหมู่บ้านสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิก หรือเครือข่ายที่ผิดกฎหมาย โดยสัญญาว่าจะให้ประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ที่สมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกภายใน 15 วันหลังจากวันสมัคร และอ้างว่าจะโอนเงินเข้าบัญชีให้ผู้สมัครรายละ 1 ล้านบาท 5 ล้านบาท 10 ล้านบาท และ 15 ล้านบาท ตามลำดับ และผู้สมัครจะตรวจสอบเงินที่ผู้ชักชวนโอนให้ทางโทรศัพท์เท่านั้น ซึ่งผู้สมัครจะต้องจ่ายค่าสมัครสมาชิกคนละ 300 บาท และต้องซื้อโทรศัพท์มือถือจากผู้ชักชวนในราคาเครื่องละ 1,700 บาท แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีผู้สมัครเป็นสมาชิกคนใดได้รับเงินตามที่กลุ่มบุคคลดังกล่าวให้สัญญาไว้ โดยอ้างว่าเงินที่จะนำมาจ่ายให้ต้องมาจากต่างประเทศ ทำให้ต้องใช้เวลาในการดำเนินการ
           ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กระทรวงมหาดไทยจึงได้สั่งการให้จังหวัดทุกจังหวัด ติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆ และเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ รวมทั้งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้ระมัดระวังบุคคล/กลุ่มบุคคลที่มีฤติการณ์เข้าข่ายลักษณะดังกล่าวข้างต้น
           รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันแก๊งมิจฉาชีพมีการใช้เล่ห์ลวงต่างๆ มากมาย และมีการปรับเปลี่ยนวิธีการหลอกลวงในหลายรูปแบบทั้งการโฆษณาชวนเชื่อ การใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย และการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐ ขอให้ประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ และตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจ ทั้งนี้หากพบเบาะแส ต้องการแจ้งข้อมูล หรือสอบถามข้อมูล สามารถติดต่อศูนย์ดำรงธรรมได้ที่สายด่วน 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง