ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คอลัมนิสต์ประจำอปท.นิวส์ ย้อนกลับ
บอกเล่าจาก นาย ปัญญา มหานุกูล
11 ธ.ค. 2558

       ข้าพเจ้านาย ปัญญา มหานุกูล ปัจจุบันอายุ 72 ปี  ข้าพเจ้าเกิดที่มีนบุรี เป็นบุตรชายคนที่ 2 ของนายเซิงกุ่ย และ นางคาเชิง ข้าพเจ้ามีพี่น้อง รวม 9 คน ตั้งแต่เยาว์วัยข้าพเจ้าได้เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ย่านประตูน้ำ เป็นเด็กประจำร้านขายยา หลังจากนั้นได้ใช้เงินที่เก็บออมต่างๆ และเปิดร้านขายยาเป็นของตัวเอง ชื่อว่าห้างขายยานุกูลฟาร์มาซี  พร้อมกับได้สมรสกับนางนวรัตน์ มหานุกูล  อยู่ที่ซอยกิ่งจันทร์ หรือ ตรอกนายก กิจการรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆประกอบกับเริ่มสร้างครอบครัว โดยมีบุตรชาย 3 คน และบุตรสาว 1 คน  ซึ่งบุตรชายคนโต ชื่อนายสมศักดิ์  มหานุกูล ข้าพเจ้าเป็นคนชอบช่วยเหลือ และรักพวกพ้องที่เจริญเติบโตในธุรกิจยาไทย - จีนด้วยดี มีการร่วมทำธุรกิจช่วยเหลือพึ่งพาซึ่งกันและกัน จนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เมื่อข้าพเจ้าได้ให้เพื่อนร้านขายยาด้วยกันยืมเช็ค พร้อมทั้งเซ็นต์ค้ำประกัน จนเป็นที่มาแห่งหนี้สิน ในช่วงชีวิตดังกล่าวเป็นช่วงต่ำสุด และยากลำบากของชีวิต และธุรกิจ ทั้งบ้านรถยนต์ ทรัพย์สินต่างๆก็ทยอยถูกขาย ถูกยึด และลูกๆก็กำลังอยู่ในวัยเล่าเรียน ซึ่งลูกชายทั้ง 3 คน กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนอัสสัมชัญกรุงเทพ (ประถม) และบุตรสาวก็กำลังจะเข้าเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ข้าพเจ้าตัดสินใจต่อสู้ และก้มหน้าใช้หนี้สินที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ขึ้นลงขึ้นศาล แม้กระทั่งถูกตำรวจจับจ่ายเช็คไม่มีเงิน แต่กำลังใจของครอบครัวและบุตรที่กำลังเจริญเติบโต ทำให้ข้าพเจ้าได้ต่อสู้และไม่ท้อแท้ จนกระทั่งข้าพเจ้าได้มีโอกาสได้เดินทางไปประเทศจีนจากคำชักชวนของเพื่อนสนิทที่เติบโตในวงการยาสมุนไพรจีน มาด้วยกัน ก็คือ คุณหมอณรงค์ พุ่มโพธิ์งาม ทั้งค่าเดินทาง ค่าที่พัก คุณหมอเป็นผู้รับผิดชอบให้ทั้งสิ้น

          ข้าพเจ้าจึงได้ร่วมเดินทางไปประเทศจีนกับเพื่อนๆท่านอื่นๆ ไปไหว้ศาลเฮียงบูซัว (เจ้าพ่อเสือ) ตอนนั้นข้าพเจ้าลำบากมาก ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ก็ได้บนกับเจ้าพ่อเสือว่าอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ข้าพเจ้าไปไหว้เจ้าพ่อเสือ และก็บนอย่างเดียวกันทุกๆครั้ง ปีละครั้ง เป็นเวลา 3 ปี ติดต่อกัน อยู่มาวันหนึ่งเพื่อนของข้าพเจ้า ก็คือหมอณรงค์ พุ่มโพธิ์งาม ก็เอ่ยปากชวนข้าพเจ้าไปดูบ้าน ข้าพเจ้าก็บอกแกไปว่า ข้าพเจ้าไม่มีเงินดาวน์ ไม่ซื้อ คุณหมอก็บอกว่า กูจะซื้อให้มึง”  ข้าพเจ้าก็ยังบอกต่อไปอีกว่า ไม่เอา เพราะว่าจะเอาเงินที่ไหนผ่อน คุณหมอก็ยังพูดต่อไปอีกว่าไม่เป็นไร กูจะผ่อนให้มึง”  ซึ่งข้าพเจ้ารำลึกถึงคำขอของข้าพเจ้าต่อ ตั้วเหล่าเอี้ย  (เจ้าพ่อเสือ) เสมอ ท่านช่างศักดิ์สิทธิ์ ได้แต่กล่าวในใจว่าถ้าสามารถลืมตาอ้าปากได้ จะทำทุกอย่างเพื่อเป็นคุณาปรารถนาต่อเจ้าพ่อเสือ  ซึ่งเป็นที่มาของการเคารพ และศรัทธาต่อองค์ตั้วเหล่าเอี้ย ของคนในครอบครัวทั้งลูกชายและลูกสาว

          ต่อมาลูกชายคนโตของข้าพเจ้า มีโอกาสได้ไปจังหวัดปราจีนบุรี ไปเห็นศาลเจ้าพ่อเสือ ก็ไปไหว้ และได้พบผู้ดูแลที่นั่น ชื่อคุณหยางเซิง แซ่ลี้  บอกว่าศาลจะถูกย้าย เพราะเจ้าของที่ดินต้องการใช้ที่ จากนั้นลูกชายคนโต คือ คุณสมศักดิ์ ก็มาเล่าให้ผมฟัง และพาผมไปกราบไหว้ และรู้สึกศรัทธาเหมือนองค์จริงที่ประเทศจีน ผมจึงได้บอกคุณหยาง ไปว่าผมจะหาที่ดินใกล้บริเวณนั้น จะสร้างศาลเจ้าพ่อเสือให้ใหม่  จึงเป็นที่มา ของการจัดสร้างศาลเจ้าพ่อเสือ จังหวัดปราจีนบุรี

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...