'ศรีสุวรรณ' เคลื่อนไหวแล้ว! นัด 9 ส.ค.ลุยฟ้องศาลปกครอง ขอให้สั่งระงับโครงการ 'แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต' เหตุถูกกูรูเศรษฐกิจวิจารณ์ยับ สร้างภาระการเงินการคลังให้ประเทศ ปิดกั้นโอกาสนำเงินไปพัฒนาด้านอื่น ประเทศชาติใช้เม็ดเงินมหาศาล แต่ประชาชนต้องแบกหนี้
เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2567 นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีโดยกระทรวงการคลัง และคณะกรรมการนโยบายโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet กำลังขับเคลื่อนโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทให้กับประชาชนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยให้มีการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยจะต้องมีการกู้เงินและเงินภาษีของประชนคนทั้งประเทศประมาณ 5 แสนล้านล้านบาทมาดำเนินการนั้น
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า โครงการฯดังกล่าว ถูกนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดว่า จะเป็นการสร้างภาระให้กับการเงินการคลังของประเทศในระยะยาว และปิดกั้นโอกาสในการนำเงินไปพัฒนาด้านอื่นๆของประเทศอย่างมาก อีกทั้งอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ 2560 หลายมาตรา และยังอาจขัดต่อกฎหมายหลายฉบับ อาทิ พรบ.เงินตรา 2501 พรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 พ.ร.บ.เงินคงคลัง 2491 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตลอดจนกฎหมาย คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ และระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมากมาย
อีกทั้ง การดำเนินโครงการดังกล่าว สถาบันวิชาการหลายสำนักออกมาประเมินว่าจะมีผลกระตุ้นต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) เพียงแค่ 0.6-0.9 % เท่านั้น แต่ต้องใช้เม็ดเงินมหาศาลทำให้ประเทศชาติต้องเป็นหนี้ ที่ทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ จึงเป็นโครงการที่ “ได้ไม่คุ้มเสีย” ประโยชน์ที่ประเทศจะได้นั้นน้อยกว่าต้นทุนที่เสียไปอย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างบรรทัดฐานให้มีการแจกเงินเพื่อกระตุ้นให้คนจับจ่ายใช้สอยในระยะสั้น ๆ โดยไม่คำนึงถึงวินัยและเสถียรภาพการคลัง ทั้งๆที่ควรจะนำไปช่วยเหลือเฉพาะคนยากคนจนคนเปราะบางมากกว่าการแจกทั่วไปหมด
"เหตุดังกล่าว ประชาชนผู้รักชาติจำนวนมาก จึงมอบอำนาจให้องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เป็นธุระในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ ในการยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ศาลสั่งระงับโครงการดังกล่าวเสีย โดยจะเดินทางไปยื่นฟ้องในวันที่ 9 ส.ค. 2567 เวลา 10.00 น.ที่ศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม." นายศรีสุวรรณ กล่าว