“นายกฯ” เผย ผลสำเร็จไทย-จีน กระชับสัมพันธ์ 50 ปี จับมือเน้น “อุตสาหกรรมอนาคต-คืบหน้ารถไฟเร็วสูง-ยกระดับสินค้า-ปราบอาชญากรรมข้ามชาติ-แก้ฝุ่นพิษ“
เมื่อเวลา10.00 น.(ตามเวลานครฮาร์บิน เร็วกว่ากรุงเทพฯ 1 ชั่วโมง )วันที่8 ก.พ. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติฮาร์บินไทผิง นครฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย ใช้เวลาเดินทางกว่า 6 ชั่วโมง โดยจะถึงจากท่าอากาศยานทหาร 2กองบิน 6(บน. 6) ดอนเมือง เวลาประมาณ15.30 น.
น.ส.แพทองธาร โพสต์ข้อความทางโซเชียล ถึงผลการเดินทางยืนสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า นอกเหนือจากการเข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผลสำเร็จจากการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการในครั้งนี้ ยังได้พบหารือกับผู้นำระดับสูงของจีนอีกสองท่านที่กรุงปักกิ่ง คือ
ประชุมหารือกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เฉียง และได้ขอบคุณที่เชิญเยือนและต้อนรับอย่างอบอุ่น ทั้งสองฝ่ายพร้อมกระชับความร่วมมือในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่จำเป็นต่อการเปลี่ยนผ่านสีเขียวและดิจิทัล เช่น EV AI เซมิคอนดักเตอร์ พลังงานทางเลือก การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน การยกระดับมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า เชื่อมโยงนวัตกรรมทางการเงินและตลาดทุน การพัฒนาความเชื่อมโยงในภูมิภาค ซึ่งรวมถึงรถไฟความเร็วสูง ตลอดจนหารือแนวทางร่วมมือแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่สำคัญ เราจะยกระดับความร่วมมือแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติอย่างจริงจัง โดยเฉพาะปัญหาคอลเซ็นเตอร์
และยังได้เชิญนายกรัฐมนตรีหลี่ฯ เยือนไทยในโอกาสปีทองแห่งมิตรภาพ ไทย - จีน ซึ่งได้ตอบรับด้วยความยินดี และ ได้ร่วมกับท่านนายกหลี่ฯ เป็นสักขีพยานการลงนามเอกสารความร่วมมือสองฝ่ายรวม 13 ฉบับ ครอบคลุมผลประโยชน์หลายสาขา เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล เทคโนโลยีนิวเคลียร์ อวกาศ และ AI
นอกจากนั้นได้พบหารือท่านจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน ซึ่งเราเห็นพ้องให้ฝ่ายนิติบัญญัติแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น และส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประชาชนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ด้วยทุนการศึกษา วัฒนธรรม และ soft power
ทั้งหมดนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและเร่งรัดการดำเนินผลให้เป็นรูปธรรมในโอกาสแรก เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของการเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย-จีน และการดำเนินความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งในอนาคต 50 ปีข้างหน้าต่อไป