นายสำราญ สาราบรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมาย กรมส่งเสริมการเกษตร เข้าร่วมบูรณาการกับกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพาณิชย์ พัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันทั้งระบบให้มีเสถียรภาพ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้ให้ข้อมูลสถานการณ์ปาล์มน้ำมันขณะนี้ว่า ยังมีสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบ อยู่ในโรงงานเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ราคาผลผลิตปาล์มดิบของเกษตรกรลดลง ประกอบกับเกษตรกรตัดทะลายปาล์มที่ยังไม่สุกไปจำหน่าย ทำให้อัตราการสกัดปาล์มน้ำมันดิบต่ำ จึงได้เร่งหาแนวทางการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การปฏิรูปปาล์มน้ำมันทั้งระบบ
โดยกระทรวงอุตสาหกรรมเน้นเรื่องการกำหนดอัตราการสกัดขั้นต่ำของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มให้อยู่ที่ 18% และราคาที่โรงงานรับซื้อเป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในได้พิจารณาแนวทางการกำหนดราคาวัตถุดิบ การกำกับควบคุมลานเท และการบริหารสต๊อกน้ำมันปาล์ม เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและให้ราคาเป็นไปตามกลไกของตลาด
ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้กำหนดมาตรการให้ชาวสวนตัดทะลายปาล์มคุณภาพให้เป็นไปตามมาตรฐานสินค้าเกษตรทะลายปาล์มน้ำมัน (มกษ. 5702-2552) ซึ่งกำหนดคุณภาพทั่วไปของทะลายปาล์มตามที่เก็บเกี่ยวเพื่อจำหน่าย ดังนี้ 1.ทะลายปาล์มต้องมีลักษณะตรงตามพันธุ์ 2.เป็นทะลายปาล์มสุก ซึ่งผลปาล์มน้ำมันที่ส่วนใหญ่ผิวเปลือก สีส้มหรือสีแดง และเนื้อปาล์มมีสีส้ม มีจำนวนผลร่วงอย่างน้อย 10 ผลต่อทะลาย หรือทะลายปาล์มกึ่งสุก เป็นผลปาล์มน้ำมันที่ส่วนใหญ่ผิวเปลือกสีส้มแดงหรือสีแดงม่วง มีผลร่วงน้อยกว่า 10 ผลต่อทะลาย
3.มีความสด โดยไม่ผ่านการรดน้ำหรือมีการกระทำใดๆ ที่เป็นการเร่งให้ดูเหมือนผลสุกหรือผลร่วง เช่น บ่มแก๊ส (ทะลายปาล์มน้ำมันจะคงความสดเมื่อขนส่งถึงโรงงานภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากเก็บเกี่ยว) 4.สะอาดและปราศจากสิ่งแปลกปลอม ที่มองเห็นได้ 5.ไม่มีความเสียหายอันเนื่องมาจากศัตรูพืชที่มีผลกระทบต่อคุณภาพผลิตผล และ 6.ความยาวของก้านทะลายไม่เกิน 5 เซนติเมตร รวมทั้งการแบ่งชั้นคุณภาพทะลายปาล์มสุกออกเป็น ชั้นพิเศษ ชั้นหนึ่งและชั้นสอง
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ชาวสวนไม่เก็บเกี่ยวปาล์มสุก ทำให้ปาล์มไม่ได้คุณภาพ เป็นเพราะเกษตรกรเจ้าของสวนไม่ได้ตัดปาล์มน้ำมันเอง หรือไม่ได้ควบคุมคุณภาพในการตัดของผู้รับเหมา รวมทั้งความเข้าใจในการเก็บเกี่ยวปาล์มสุกของแต่ละคนไม่ตรงกัน แนวทางแก้ไขคือการส่งเสริมให้ชาวสวนปาล์มน้ำมันรวมกลุ่มเกษตรกรในระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ซึ่งกำหนดเป้าหมายการดำเนินงานในการลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ยกระดับคุณภาพผลผลิตสู่มาตรฐาน สอดคล้องความต้องการของตลาด และเพิ่มศักยภาพการบริหารการจัดการ
โดยในกลุ่มสินค้าปาล์มน้ำมัน ได้นำระบบควบคุมภายในมาปรับใช้ในการบริหารจัดการกลุ่ม เพื่อควบคุมคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐาน และให้กลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันเลือกใช้ทีมตัดปาล์มน้ำมันของสมาชิกที่มีการดำเนินการอยู่แล้ว