นิยม เวชกามา ผช.รมต. ประจำสำนักนายกฯ ทำหนังสือกราบทูล “สมเด็จพระสังฆราช” ขอมติ “มหาเถรสมาคม” เสนอรัฐบาลขออัตราพนักงานบัญชีช่วยงานคณะสงฆ์ทุกจังหวัด

ดร.นิยม เวชกามา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เสนอขออัตราตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีการเงินเข้าเป็นข้าราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อแก้ไขปัญหาการทำบัญชีวัดให้ถูกต้อง โดยได้ทำหนังสือกราบทูลสมเด็จพระสังฆราช ผ่านสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เพื่อให้มหาเถรสมาคมแจ้งไปยังรัฐบาลขอเปิดอัตราบุคลากรด้านบัญชีการเงินเนื่องจากเห็นว่า พระภิกษุไม่มีความรู้ด้านการบัญชีการเงิน โดยมากก็เรียนนักธรรม เรียนบาลี รูปที่มีความรู้ด้านปริญญาบ้างก็เป็นแต่เพียงด้านอื่นๆ ซึ่งไม่เกี่ยวกับด้านบัญชีการเงิน จึงเห็นว่า มหาเถรสมาคมควรเสนอให้รัฐบาลเปิดอัตราด้านบัญชีการเงินประจำสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดแต่ละจังหวัด เพื่อคอยให้คำแนะนำเจ้าอาวาสในการจัดทำบัญชีการเงินของวัดในแต่ละปี โดยขั้นตอนสุดท้ายให้ข้าราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาในจังหวัดนั้นเป็นผู้เซ็นรับรองบัญชีเหมือนการเซ็นรับรองบัญชีของบริษัทต่างๆ อันจะเป็นการป้องกันความสุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายของเจ้าอาวาส 

 สาระของหนังสือมี ดังนี้

ในฐานะที่รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้กำกับราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติแทนนายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาโดยรอบคอบและคำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาจากมติมหาเถรสมาคมดังกล่าวนี้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะขอประทานอนุญาตกราบทูลฝ่าพระบาท เสนอแนวทางการปฏิบัติตามมติมหาเถรสมาคมครั้งที่ 19/2568 หรือมติที่ 620/2568 ที่ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับวัดต่าง ๆ ทั่วราชอาณาจักร อันเป็นความละเอียดอ่อนอย่างยิ่งหากขาดความระมัดระวังและต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงในปัจจุบันเพื่อให้ทุกฝ่ายได้ฉุกคิดและกำหนดเป็นแนวทางปฏิบัติต่อไป ดังนี้
1) ต้องให้ทุกฝ่ายเข้าใจถึงสภาพความเป็นจริงในปัจจุบันว่า บรรดาวัดหรือพระอารามต่าง ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วราชอาณาจักรมีจำนวนกว่า 40,000 วัดนั้น ผู้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส ขาดความรอบรู้ด้านบัญชีการเงินที่จะสามารถจัดทำให้เข้าเกณฑ์ตามข้อกำหนดของทางราชการได้ หรือแม้แต่จะจัดทำบัญชีการเงิน ของวัดตัวเองในแต่ละวัดก็ไม่สามารถจะจัดทำให้เกิดความถูกต้องเป็นที่พอใจแก่ทุกฝ่ายได้ นี่คือความจริงที่ทุกฝ่ายไม่สามารถจะปฏิเสธได้
2) จากเหตุผลตามข้อ 1) มหาเถรสมาคมจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตราข้อบังคับเพื่อให้เกิดระเบียบปฏิบัติที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นแกนกลางสำคัญโดยจัดตั้งให้เป็นหน่วยงานกลาง     ขึ้นตรงต่อสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคมเพื่อระดมผู้ที่มีความรู้และทักษะด้านบัญชีการเงินในการให้คำแนะนำ      เจ้าอาวาสจัดทำบัญชีศาสนสมบัติของวัดในแต่ละวัดให้เกิดความโปร่งใสถูกต้องตามหลักการบัญชีและการเงิน   ที่สามารถจะแสดงเป็นหลักฐานในกรณีที่หากมีการตรวจสอบได้
3) ดังเป็นที่ทราบกันแล้วว่า ในปัจจุบันพนักงานสอบสวนได้เข้ามาตรวจสอบบัญชีการเงินในวัดและในบางพระอารามตามที่เป็นข่าวอื้อฉาวจนไม่สามารถจับต้นชนปลายได้ และยังได้สร้างความไม่สบายใจและวิตกกังวลแผ่ขยายเป็นวงกว้างให้กับบรรดาพระภิกษุที่ดำรงสถานะเป็นพระสังฆาธิการ จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถจะหาข้อยุติว่าจะดำเนินการให้รอบคอบไม่ให้เกิดผลกระทบไปได้ในแนวทางใด ถึงแม้ว่ามติมหาเถรสมาคม    ที่กล่าวถึงนี้จะได้ประกาศออกมาแล้ว แต่ก็มิได้เป็นการแก้ไขปัญหาให้ตรงประเด็น อาจเป็นไปได้ว่าสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติในปัจจุบันยังขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านบัญชีการเงินอย่างถ่องแท้ และ ยังอยู่ในภาวะตื่นตระหนกต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และควรถือกรณีดังกล่าวนี้เป็นกรณีศึกษาที่จะแก้ไขปัญหาอย่างผู้มีปัญญาในระยะยาวต่อไป

4) จากความจริงที่ปรากฏในข้อ 3) ข้างต้นนี้ เกล้ากระหม่อมจึงขอประทานกราบทูลฝ่าพระบาทได้โปรดมีพระบัญชาให้เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช นำเสนอที่ประชุมมหาเถรสมาคมเพื่อขอให้มีมติแจ้งไปยังนายกรัฐมนตรีที่กำกับราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติตามกฎหมาย  ขออัตราตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชีการเงินเข้าเป็นข้าราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทุกจังหวัด ทั่วราชอาณาจักรเพื่อให้คำแนะนำแก่ท่านเจ้าอาวาสที่มีที่ตั้งวัดอยู่ในแต่ละจังหวัดและรับผิดชอบร่วมกันกับ  เจ้าอาวาสในบัญชีการเงินของแต่ละวัดอันจะเป็นการทำให้หากมีกรณีที่พนักงานสอบสวนจำเป็นจะต้องเข้าไปตรวจสอบบัญชีวัด ก็ควรจะต้องตรวจสอบหรือสอบถามรายละเอียดกับข้าราชการผู้นี้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบบัญชีการเงินในฐานะข้าราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาด้านการบัญชีประจำจังหวัดแทนการไปสอบสวนกับท่านเจ้าอาวาส ซึ่งอาจทำให้สังคมมองว่าพนักงานสอบสวนเข้าไปคุกคามบรรดาวัดวาอารามต่าง ๆ ได้
เกล้ากระหม่อมในฐานะผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมเสมอที่จะให้ความร่วมมือกับกรรมการมหาเถรสมาคมเพื่อจะทำให้ทุกฝ่ายได้บรรลุเจตนารมณ์ในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นมาแล้วและหาแนวทางป้องกันมิให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร รายงาน