นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม ในฐานะโฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงฯ ยืนยันว่ามาตรการอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาท (รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย) ขณะนี้มีความพร้อมเปิดลงทะเบียน ในวันที่ 25 สิงหาคม 2568 เวลา 00.01 น. เป็นต้นไป โดยจะเปิดให้ประชาชน ลงทะเบียนใช้สิทธิผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” ไม่มีจำกัดสิทธิ์จำนวนผู้ลงทะเบียน และไม่มีวันปิดลงทะเบียน ซึ่งประชาชนสามารถทยอยลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้
สำหรับ เงื่อนไขในการลงทะเบียน ผู้ลงทะเบียนการใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือ EMV Contactless (Visa/Mastercard) กับบัตร Rabbit Card ในการลงทะเบียนผ่านแอป “ทางรัฐ” นั้น ผู้ที่ลงทะเบียน 1 คน ต้องเป็นบุคคลที่มีสัญชาติไทย โดยจะต้องระบุเลขที่บัตรประชาชน 13 หลัก จะสามารถลงทะเบียนบัตร EMV ได้ 1 ใบ และบัตร Rabbit Card ได้ 1 ใบเท่านั้น
โดยการใช้งานในระยะแรก จะให้บริการ 2 บัตรตามที่ได้ลงทะเบียนผ่านแอปฯ “ทางรัฐ” คือ บัตร Rabbit Card สามารถใช้บริการได้ 4 สาย คือ สายสีเขียว, สีทอง, เหลือง, ชมพู ขณะที่บัตร EMV Contactless ตามเงื่อนไขธนาคารที่เข้าร่วมให้บริการที่กำหนด สามารถใช้บริการได้กับ 6 สาย คือ สายสีแดง, น้ำเงิน, ม่วง, ชมพู, เหลือง, แอร์พอร์ต เรล ลิงค์ (ARL) พร้อมย้ำว่าการใช้งาน จะเสียค่าแรกเข้าการใช้บริการสูงสุด 20 บาทตลอดสาย
ทั้งนี้ผู้ใช้บริการหากทำการเปลี่ยนสายการเดินทางนอกสถานีจะจำกัดเวลา 30 นาที ส่วนหากอยู่ในสายเดิมจะจำกัดเวลา 180 นาที ซึ่งหากเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนด จะคิดค่าแรกเข้าใหม่ทันที
“โครงการนี้ไม่ได้จำกัดเวลาในการลงทะเบียน ดังนั้นผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมนโยบายในครั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องรีบลงทะเบียน เพราะไม่ได้จำกัดสิทธิ และไม่ได้จำกัดจำนวนแต่อย่างใด คนไทยที่มีเลขบัตรประชาชน 13 หลัก สามารถลงทะเบียนได้ทุกคน” นายกฤชนนท์ กล่าว
สำหรับเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี ที่ต้องการลงทะเบียน เนื่องจากเข้าเงื่อนไขของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA)สามารถลงทะเบียนได้ที่ได้ที่ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสารประจำสถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี
โดยวัตถุประสงค์ของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสายนั้น ต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และยังแก้ปัญหาการจราจรติดขัดบนท้องถนน ซึ่งประชาชนในกรุงเทพฯจะหันมาใช้รถสาธารณะมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันนี้มีผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าทุกสายต่อวันรวม 1.7 ล้านคนต่อเที่ยว ซึ่งหากเริ่มใช้จริงแล้ว คาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มมากกว่า 20%
ทั้งนี้ ทางกระทรวงฯ พร้อมที่จะจัดระบบขนส่งสาธารณะ ให้สอดคล้องตามไปด้วย เช่น การเพิ่มความถี่ของการเดินรถไฟฟ้า รวมไปถึงนำรถโดยสารประจำทางที่เดินสายยาว นำมาปรับใช้ให้สั้นลงตามจุดต่างๆ ของรถไฟฟ้า เพื่อความสะดวกต่อการเดินทาง
สำหรับความคืบหน้าการแก้กฎหมายของ พ.ร.บ. การขนส่งทางราง พ.ร.บ. ตั๋วร่วม และ พ.ร.บ. รฟม. ล่าสุดเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯชั้นกฎหมายวาระ 2 และ 3 โดยเมื่อผ่านกระบวนการดังกล่าวแล้วจะเข้าสู่การพิจารณาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ต่อไป ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวจำเป็นต้องใช้เวลา เพื่อทำตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด แต่ขอยืนยันว่ากระทรวงคมนาคมพร้อม