การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเป็นปัญหาระดับโลกที่เร่งด่วนที่สุดที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบัน อุตสาหกรรมภาพยนตร์ โทรทัศน์ และสตรีมมิ่ง ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้มานานแล้วเช่นกัน

 เช่นกลุ่ม Sustainable Production Alliance (SPA) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 2010 เป็นกลุ่มบริษัทภาพยนตร์ โทรทัศน์ และสตรีมมิ่งชั้นนําของโลกที่อุทิศตน เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงธุรกิจบันเทิงให้เป็นอุตสาหกรรมที่ยั่งยืนมากขึ้น

กว่า 10 ปีที่ SPA ทำงานเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่มีอยู่ตลอดเวลาด้วยความเข้าใจดีว่า   ในการแก้ไขปัญหาจะต้องวัดผลกระทบของอุตสาหกรรมก่อน   โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิต  เพื่อจะได้รู้วิธีปฏิบัติในการจัดการกับผลกระทบที่สําคัญของอุตสาหกรรม อีกทั้งยังไม่สามารถดำเนินการให้สำเร็จได้เป็นรายบุคคล SPA  จึงรับภารกิจในการสร้าง และแจกจ่ายเครื่องมือและทรัพยากรทั่วไป ให้กับผู้เชี่ยวชาญด้านภาพยนตร์ โทรทัศน์ และสตรีมมิ่ง เพื่อฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกัน

นอกจากนั้นกลุ่ม SPA ยังมุ่งมั่นที่จะสํารวจและพัฒนาโซลูชัน แบ่งปันผลการวิจัยในอุตสาหกรรม และเผยแพร่การศึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาที่สําคัญนี้  เป้าหมายของ SPA คือการให้ข้อมูลเชิงลึกของอุตสาหกรรมในด้านที่มีผลกระทบสูง และระดมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ดําเนินการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงในเชิงระบบและการดําเนินงาน

กลุ่มสมาชิกของ SPA ประกอบด้วยบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านความบันเทิง เช่น Amazon Studios, Amblin Partners, Disney, Fox Corporation, NBC Universal, Participant, Sony Pictures Entertainment, ViacomCBS, WarnerMedia และ Netflix

สำหรับ Netflix ที่เราชมกันทั้งบ้านทั้งเมือง มีแผนลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 50% ภายในปี 2030 โดยปรับการถ่ายทำที่ใช้เทคโนโลยี เปลี่ยนมาใช้พลังงานทางเลือกแทน บริษัทพบกับความท้าทายในเรื่องต้นทุนที่สูงขึ้น ทั้งเงิน คน และเวลา ปีนี้ Netflix เลือกสนับสนุนโครงการปรับเปลี่ยนพื้นที่รกร้างในตอนใต้ของสหรัฐอเมริกาให้เป็นป่า เพื่อดูดซับคาร์บอน

มูลนิธิป่าไม้อเมริกัน (The American Forest Foundation : AFF) ประกาศเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2025 ว่าได้ลงนามในสัญญา 15 ปีกับ Netflix ซื้อคาร์บอนเครดิตที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว  ที่ผลิตผ่านโครงการ Afforestation, Reforestation, and Revegetation (ARR) ของ AFF  Fields & Forests (F&F)  ประกอบด้วยการปลูกป่าบนที่ดินที่ไม่เคยมีป่ามาก่อน การปลูกต้นไม้บนที่ดินที่เพิ่งถูกตัดไม้ และการฟื้นฟูพืช ครอบคลุมการฟื้นฟูพืชพรรณ หญ้า พุ่มไม้ และต้นไม้ให้กับที่ดินที่เสื่อมโทรม ซึ่งมักเป็นขั้นตอนแรกก่อนที่จะเกิดการปลูกป่า  โดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนท้องทุ่งที่ไม่ได้ใช้งานในภาคใต้ของประเทศสหรัฐอเมริกาให้เป็นป่า  

มูลนิธิป่าไม้อเมริกันก่อตั้งขึ้นในปี 1981 เป็นองค์กรอนุรักษ์ระดับชาติ ทํางานร่วมกับครอบครัวเจ้าของป่าผ่านโครงการที่มุ่งนําแนวทางปฏิบัติในการจัดการป่าไม้ไปใช้  เพื่อดูแลคุณภาพและผลผลิตของป่าไม้ของพวกเขา  และเปลี่ยนพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ให้เป็นป่าที่เจริญงอกงาม โปรแกรมนี้มุ่งเป้าไปที่เจ้าของที่ดินพื้นที่ขนาดเล็ก ซึ่งในอดีตพวกเขาถูกปิดกั้นจากตลาดคาร์บอนโดยสมัครใจ   ด้วยเหตุที่ต้องใช้เงินทุนสูงและมีความซับซ้อนของโปรแกรม    

ในการทำงาน โครงการ F&F ต้องจัดหาต้นไม้ ปลูกป่า และให้การสนับสนุนเจ้าของที่ดินด้านเทคนิคอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้เงินรายปีตลอดสัญญา 30 ปี   Netflix สนับสนุนเงินทุนในระยะเริ่มต้นที่สําคัญผ่านการชําระเงินล่วงหน้าตามเป้าหมาย milestone   ซึ่งเป็นแนวทางจัดหาเงินทุนที่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่เชื่อมโยงการสนับสนุนทางการเงินล่วงหน้ากับภารกิจที่สําคัญ เช่น ค่าพื้นที่ที่ลงทะเบียน  หรือ เงินที่ต้องจ่ายตาม milestone เป็นต้น

ปัจจุบัน โครงการ F&F ได้ลงทะเบียนที่ดินของครอบครัวไปแล้ว 2,500 เอเคอร์ หมายถึงการปลูกต้นไม้ใหม่ 1.4 ล้านต้น  และการจ่ายเงินให้เจ้าของที่ดินโดยตรง  2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และตั้งเป้าที่จะลงทะเบียนที่ดินให้ได้ 75,000 เอเคอร์ภายในปี 2032 โดยประมาณว่าจะผลิตคาร์บอนเครดิตได้ 4.8 ล้านเครดิต

การลงทุนของ Netflix จะช่วยเปิดตัวพื้นที่ 6,000 เอเคอร์แรก และได้ขยายโครงการไปทั่วสหรัฐอเมริกาตอนใต้  John Ringer ผู้อํานวยการอาวุโสฝ่ายการเงินโครงการและตลาดสิ่งแวดล้อมของ AFF กล่าวว่า ความร่วมมือของ Netflix แสดงให้เห็นความเป็นไปได้เมื่อธุรกิจและธรรมชาติมารวมกัน การลงทุนและวิทยาศาสตร์ ที่เหมาะสมกับการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศตามธรรมชาติ  จะเป็นทั้งเครื่องมือที่ทรงพลัง และความน่าเชื่อถือในการจัดการกับความท้าทายด้านการอนุรักษ์ที่เร่งด่วนที่สุดของเรา  และขอเชิญชวนให้บริษัททั้งหลายลงทุนในแนวทางใหม่ๆ ที่สนับสนุนชุมชนชนบท และป่าไม้ของครอบครัวในอเมริกา

Alisha Logue เจ้าของที่ดินในจอร์เจียกล่าวว่า “ที่ดินผืนนี้เป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมโยงฉันกับคุณยาย และฉันต้องการส่งต่อให้ลูกสาวเมื่อเธอโตขึ้น โครงการนี้ช่วยให้ฉันสามารถรักษามรดกของครอบครัวไว้ได้”

ขอบคุณข้อมูลจาก American Forest Foundation , ESG News, Sustainable Production Alliance White Paper_0317