นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคมได้จูงใจให้แรงงานภาคอิสระสามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือก 3 (ทางเลือกใหม่) โดยผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบเดือนละ 300 บาท ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีนอนพักรักษาตัวในสถานพยาบาล วันละ 300 บาท กรณีไม่นอนพักรักษาตัวในสถานพยาบาล แต่มีใบรับรองแพทย์ให้หยุดพักรักษาตัว ตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป ได้รับวันละ 200 บาท (สำหรับทางเลือกใหม่ กรณีนอนพักรักษาตัว กับไม่นอนพักรักษาตัว รวมกันไม่เกิน 90 วันต่อปี) อีกทั้งระยะเวลาการรับสิทธิกรณีทุพพลภาพเป็นตลอดชีวิต เพิ่มค่าทำศพเป็น 40,000 บาท เงินบำเหน็จชราภาพเป็นเดือนละ 150 บาท และหากส่งเงินครบ 180 เดือน ให้เงินเพิ่มอีก 10,000 บาท อีกทั้งเงินสงเคราะห์บุตรคนละ 200 บาท คราวละไม่เกิน 2 คน ตั้งแต่แรกเกิด แต่ไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์ โดยเปิดโอกาสให้แรงงานภาคอิสระที่สนใจสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศที่สะดวก เพียงใช้บัตรประจำตัวประชาชนในการสมัคร
อย่างไรก็ดีสำนักงานประกันสังคมยังได้ให้บริการขึ้นทะเบียนผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยผู้ที่ต้องการสมัครขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สามารถสมัครขึ้นทะเบียนได้ด้วยตนเอง หรือให้ผู้อื่นสมัครผ่าน https://www.sso.go.th/section40_regist/ หรือ ผ่านทาง QR code
ทั้งนี้ ผู้สมัครต้องกรองเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหลังบัตรประจำตัวประชาชน คำนำหน้า ชื่อ-นามสกุล วัน-เดือน-ปีเกิด e-mail หรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำหรับช่องทางการให้บริการชำระเงินสมทบผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สามารถชำระเงินสมทบผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารและหน่วยบริการ ดังนี้ เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย เคาน์เตอร์ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้านสะดวกซื้อ ห้างบิ๊กซี ห้างเทสโก้โลตัส นอกจากนี้ยังเพิ่มช่องทางการหักบัญชีเงินฝากธนาคารผ่านทางธนาคารดังนี้ ธนาคารกรุงไทยธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารทหารไทย ธนาคารธนชาต ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) หรือชำระผ่านตู้บุญเติมทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่าย ในการติดต่อขอรับบริการของประชาชน และผู้ประกันตน อันเป็นการยกระดับการพัฒนาการให้บริการประชาชนของหน่วยงานภาครัฐอีกด้วย