ผลการเลือกตั้งซ่อม จังหวัดนครปฐม เขต 5 ออกมาแล้ว ซึ่งแม้จะไม่เป็นทางการ แต่คะแนนของผู้มาอันดับหนึ่งชนะขาดลอย ห่างกันเกือบ 10,000 คะแนน และมีผู้มาใช้สิทธิ์ลดลงกว่า 10,000 คน โดยผู้สมัครของพรรคอนาคตใหม่ นายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร ซึ่งเป็นพรรคที่ได้เสียงชนะอยู่เดิม พ่ายแพ้แก่ผู้สมัครจากพรรคชาติไทยพัฒนา นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ ที่ถือเป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังและเคยได้รับการเลือกตั้งมาก่อนหน้านี้แล้วหลายสมัย ครั้งนี้จึงถือเป็นการการทวงเก้าอี้ ส.ส.คืนกลับมานั่นเอง

ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง จังหวัดนครปฐม เปิดเผยผลการนับคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 5 จังหวัดนครปฐม เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม อย่างไม่เป็นทางการ โดยการเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจำนวน 143,542 คน มาใช้สิทธิ 91,043 คน คิดเป็น 63.33%  บัตรดี 87,424 บัตรเสีย 1,623 บัตร ไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด 1,996 บัตร

โดยหมายเลข 1 นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ พรรคชาติไทยพัฒนา 37,675 คะแนน หมายเลข 2 นางสาวสิริขวัญ แย้มทูล พรรคพลังสังคม 154 คะแนน หมายเลข 3 นายสุรชัย อนุตธโต พรรคประชาธิปัตย์ 18,425 คะแนน หมายเลข 4 นางลาวัลย์ สิงห์สถิต พรรคเสรีรวมไทย 2,261 คะแนน หมายเลข 5 นางสาวปริมปรางค์ แสงสว่าง พรรคไทยศรีวิไลย์ 467 คะแนน หมายเลข 6 นายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร พรรคอนาคตใหม่ 28,216 คะแนน และหมายเลข 7 นายเพชร จันทร์ดา พรรคเพื่อชีวิตใหม่ 226 คะแนน รวมคะแนนผู้สมัครแต่ละหน่วย จำนวน 87,424

โดยผู้สมัครจากพรรคชาติไทยพัฒนา​ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ หมายเลข 1 ได้คะแนนมากที่สุด 37,675 อันดับ 2 พรรคอนาคตใหม่ นายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร หมายเลข 6 ได้คะแนน 28,216 อันดับ 3 พรรคประชาธิปัตย์ นายสุรชัย อนุตธโต หมายเลข 3 ได้คะแนน 18,425 อันดับ 4 พรรคเสรีรวมไทย นางลาวัลย์ สิงห์สถิต หมายเลข 4 ได้คะแนน 2,261 อันดับ 5 พรรคไทยศรีวิไลย์ นางสาวปริมปรางค์ แสงสว่าง หมายเลข 5 ได้คะแนน 467 อันดับ 6 พรรคเพื่อชีวิตใหม่  นายเพชร จันทร์ดา หมายเลข 7 ได้คะแนน 226 อันดับ 7 พรรคพลังสังคม นางสาวสิริขวัญ แย้มทูล หมายเลข 2 ได้คะแนน 154 รวมคะแนนผู้สมัครแต่ละหน่วย จำนวน 87,424 โดยผลคะแนนดังกล่าวคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดนครปฐมจะนำไปยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งในวันนี้ (24 ตุลาคม)

ทั้งนี้ กรรมการการเลือกตั้งมีเวลา 60 วัน ในการตรวจสอบและประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งจากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้ง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง คาดว่าจะสามารถประกาศผลอย่างเป็นทางการได้เร็วที่สุดในวันที่ 28 ตุลาคมนี้.

อย่างไรก็ตาม หากย้อนไปดูผลการเลือกตั้งก่อนหน่านี้เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 143,221 คน มีผู้ไปใช้สิทธิ์ 109,038 คน คิดเป็น 76.13% มากกว่าเลือกตั้งซ่อม 13% โดยนางจุมพิตา จันทรขจร พรรคอนาคตใหม่ ได้ 34,164 คะแนน นายสุรชัย อนุตธโต พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 18,970 คะแนน นายระวัง เนตรโพธิ์แก้ว พรรคพลังประชารัฐ ได้ 18,741 คะแนน และนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ 12,279 คะแนน

ทั้งนี้ นางจุมพิตา จันทรขจร เกิดประสบอุบัติเหตุตกรถกอล์ฟ ระหว่างการสัมมนาพรรคที่ จ.ชลบุรี จนกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา ไม่สามารถทำหน้าที่ ส.ส.ได้ ส่งผลให้เกิดการเลือกตั้งซ่อม 23 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยพรรคอนาคตใหม่ได้ส่งนายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร ลงสมัครแข่งขันแทน

และหากเปรียบเทียบผลการเลือกตั้งนครปฐม เขต 5 ระหว่างวันที่ 24 มี.ค.62 และ 23 ต.ค.62 (ไม่เป็นทางการ) จะพบว่า พรรคชาติไทยพัฒนา 12,279 -> 38,765 = เพิ่มขึ้น 26,486 คะแนน พรรคอนาคตใหม่ 34,164 -> 28,882 = ลดลง 5,282 คะแนน พรรคประชาธิปัตย์ 18,970 -> 13,061 = ลดลง 5,909 คะแนน พรรคพลังประชารัฐ 18,741 -> ไม่ลงสมัคร

อย่างไรก็ตาม การกลับมาทวงตำแหน่งของนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ นั้น มีรายงานข่าวระบุว่า ในพื้นที่เขต 5 นครปฐมนั้น เดิมป็นฐานเสียงของพรรคเพื่อไทยและฐานคนเสื้อแดง ที่หวังให้ตระกูลสะสมทรัพย์ลงสมัคร แต่กลุ่มสะสมทรัพย์ตัดสินใจนาทีสุดท้ายไปลงสมัครในนามชาติไทยพัฒนา เสียงจึงหันสนับสนุนผู้สมัครพรรคไทยรักษาชาติ แต่เมื่อพรรคถูไทยรักษาชาติถูกยุบ เสียงส่วนนี้จึงหันไปสนับสนุนผู้สมัครอนาคตใหม่ ที่ถือว่าเป็นหน้าใหม่ทางการเมือง

โดยการที่นายเผดิมชัย ได้รับการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นไปได้ว่ามีเสียงจากแกนนำเสื้อแดงส่วนหนึ่ง หันมาให้การสนับสนุน โดยเป็นที่น่าสังเกตุได้ว่า ก่อนหน้านี้นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีพื้นที่ติดกันประกาศสนับสนุนกลุ่มสะสมทรัพย์ ที่ถูกเรียกขานว่า “บ้านใหญ่ไ เสียงจึงพลิกมาชนะขาดลอย ประกอบกับบ้านใหญ่เป็นที่พึ่งของชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน แตกต่างจากคนใหม่ที่ไม่สามารถให้การพึ่งพิงได้ เป็นส่วนหนึ่งให้คะแนนเสียงเทกลับมา