ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คุณภาพชีวิต ย้อนกลับ
"ขุนยวมโมเดล"ร.พ.ต้นแบบเครือข่ายระบบสุขภาพระดับอำเภอ
12 ก.พ. 2563

 

 

นายแพทย์ กิตตินันท์ อนรรฆมณี ผู้อำนวยการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล(องค์การมหาชน)หรือ สรพ. กล่าวว่าได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมโรงพยาบาลคุณภาพมาตรฐาน HA ที่ผ่านการรับรองเครือข่ายระบบบริการสุขภาพระดับอำเภอ (DHSA)  ในพื้นที่โรงพยาบาลขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่มีความสำเร็จในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนโดยเกิดจากความร่วมมือร่วมใจของภาคส่วนต่าง ๆ ในชุมชน อาทิ โรงพยาบาล หน่วยงานราชการ หน่วยงานส่วนท้องถิ่น ประชาชนในชุมชน ที่มาร่วมกันแก้ไขปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง  โดยการรับรองเครือข่ายระบบสุขภาพระดับอำเภอ เป็นหนึ่งในระบบการประเมินและรับรองที่ สรพ. จัดทำขึ้นและเป็นเครื่องมือสำคัญที่ส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการสร้างสุขภาวะในชุมชน พัฒนาคุณภาพงานบริการสุขภาพที่มีคุณภาพ และเกื้อหนุนการเชื่อมโยงถักทอกระบวนงานในระหว่างสถานพยาบาลให้เกิดการบริการไร้รอยต่อ และยึดผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง เกิดกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันจนเกิดเป็นวัฒนธรรมการเรียนรู้ นำมาสู่การได้รับบริการที่ดี และความสามารถที่จะดูแลตนเองได้

ปัจจุบันมีโรงพยาบาลที่ผ่านการรับรองเครือข่ายระบบสุขภาพระดับอำเภอ (DHSA) จำนวน  17 แห่ง ทั้งนี้โรงพยาบาลขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับการรับรองเครือข่ายระบบสุขภาพระดับอำเภอ เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562  โดยมีอายุการรับรอง 3 ปี

ผอ.สรพ.กล่าวว่าความร่วมมือของชุมชนจะทำให้ความเข้มแข็งของชุมชนเกิดขึ้นในทุกๆด้านไม่เฉพาะด้านสุขภาวะเท่านั้น แต่ในเรื่องของมลพิษ สิ่งแวดล้อม เรื่องสุขอนามัย เรื่องของการบริการประชาชน รวมไปถึงการสร้างค่านิยมที่ดีๆให้กับลูกหลานในชุมชนที่จะพัฒนาต่อยอดในชุมชนของตัวเองต่อไป ทางสรพ.เองจะสนับสนุนให้มีโมเดลแบบนี้มากขึ้นในทั่วทุกภาคของประเทศ การรับรองในระดับเครือข่ายอำเภอ เป็นความร่วมมืออย่างแท้จริง เพราะเราไม่ได้บังคับเป็นความสมัครใจของสถานพยาบาล และในอนาคตการรับรองคุณภาพสถานพยาบาลจะทำอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะโรงพยาบาลที่เป็นของรัฐบาล

 

ด้านนายแพทย์พิทยา หล้าวงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขุนยวม กล่าวว่า การขับเคลื่อนงานเครือข่ายระบบสุขภาพระดับอำเภอ จนได้รับการรับรอง DSHA จาก สรพ. นั้น โรงพยาบาลได้มุ่งเน้นมิติของ การส่งเสริมและป้องกัน ลดปัจจัยเสี่ยงภัยสุขภาพเพื่อสร้างสุขภาวะ พชอ.กำหนดประเด็นร่วมที่สำคัญ 9 เรื่อง อาทิ ปี 2560 เริ่มด้วยปัญหาไข้เลือดออก, ปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ,ปัญหาการฆ่าตัวตาย ,ปัญหาอนามัยแม่และเด็ก และปัญหาด้านอุบัติเหตุ และในปี 2561 มีการพิจารณา        2 ประเด็นเพิ่มเติม คือ เกษตรปลอดภัย เน้นกิจกรรมอาหารปลอดภัยเป็นหลัก และการบริหารจัดการขยะ  ในปี 2562 พิจารณาเพิ่ม 2 ประเด็น คือ การท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี และการป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า  โดยการแก้ไขประเด็นปัญหาสุขภาพทั้ง 9 เรื่องนี้จะมุ่งเน้นมิติการส่งเสริมป้องกัน ลดปัจจัยเสี่ยงทั้งทางด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ในแต่ละประเด็นมี    กลยุทธ์ในการดำเนินการที่ชัดเจน ตัวอย่างเช่น ปัญหาไข้เลือดออก มีการระดมอัตรากำลังทั้งจากเครือข่ายบริการสุขภาพและภาคีเครือข่ายอื่น เช่น เทศบาล อบต. อสม. ช่วยกันในการบริหารจัดการเพื่อไม่ให้โรคไข้เลือดออกระบาดมากยิ่งขึ้นโดยผ่าน การดำเนินงานของคณะอนุกรรมการโรคไข้เลือดออก มีการประชุมทุก 3 เดือน ทำให้สามารถลดอัตราป่วย และเสียชีวิตได้   สำหรับประเด็นการท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านเมืองปอน ได้จัดกิจกรรมการดูแลแบบผสมผสาน  เพื่อแก้ไขปัญหาสุขภาพกลุ่มผู้ป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น การใช้ธาราบำบัด ในการดูแลรักษากลุ่มผู้ที่ป่วยโรค   ข้อเข่าเสื่อมในชุมชนเมืองปอน  ในการจัดการอาการปวดจนสามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้  โดยได้มีการเชื่อมโยงกับชุมชน องค์การบริหารส่วนตำบลเมืองปอน จัดนำผู้ป่วยที่มีอาการดังกล่าว เข้ารับการแช่น้ำพุร้อนซึ่งเป็นแห่งท่องเที่ยวที่สำคัญของชุมชนและเข้ารับการประคบ นวด และอบสมุนไพร เป็นต้น

 

นอกจากนี้ ในพื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลห้วยนายังได้ร่วมกันจัดการกับปัญหาฝุ่นละอองจิ๋ว PM 2.5 ในชุมชนที่มีผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง ด้วยการเชื่อมโยงการทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน มีนโยบายห้ามเผาป่าเผาขยะเพื่อลดหมอกควันในพื้นที่ และอบต.สนับสนุนงบประมาณในการเฝ้าระวังการเผาป่าในพื้นที่ในชุมชน รพ.สต.ได้รับการสนับสนุนเครื่องวัดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ เพื่อทราบสถานการณ์และประชาสัมพันธ์ให้ชุมชนทราบ รวมถึงการสนับสนุนเครื่องมือพ่นละอองน้ำให้กับบ้านของผู้ป่วยเพื่อจัดการลดฝุ่นละอองในอากาศ โดยปล่อยละอองน้ำบนหลังคาเมื่อมีหมอกควันมากด้วย

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...