ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ธรรมาภิบาล ย้อนกลับ
กกต.แจ้งจับแกนนำเสื้อแดง ผิด พ.ร.บ.ประชามติ
27 เม.ย. 2559

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิดพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ที่ สน.ทุ่งสองห้อง โดยมี ร.ต.ท.กฤติเดช ชอบค้าขาย เป็นร้อยเวรเจ้าของสำนวน โดยนายสมชัยระบุว่า พบการกระทำผิดหนึ่งกรณีจากการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กโดยกลุ่มองค์กรกลุ่มหนึ่งซึ่งขอเรียกว่าเป็นกองทุนหนึ่งซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในจังหวัดขอนแก่น มีเนื้อหาในลักษณะก้าวร้าว หยาบคาย และนำไปสู่เจตนาในการชักจูงประชาชนไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งเกี่ยวกับการรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ และเห็นว่าสามารถเชื่อมโยงการกระทำผิดจากองค์กรไปยังตัวบุคคลไม่ยากเพราะเป็นองค์กรทางการและมีผู้จัดการชัดเจน ซึ่งตนได้นำหลักฐานเสนอต่อพนักงานสอบสวนแล้ว เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องสอบสวนว่าข้อความที่โพสต์เป็นข้อความที่โพสต์โดยผู้บริหารหรือบุคลากรภายใน แต่ไม่ว่าจะโพสต์โดยใคร ผู้บริหารก็ต้องรับผิดชอบเพราะเป็นการโพสต์ต่อสาธารณะ ส่วนความผิดจะไปถึงใครนั้นขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนที่จะต้องเรียกคนรับผิดชอบองค์กรดังกล่าวมาสอบสวนเพิ่มเติมว่าใครเป็นผู้กระทำความผิด แม้ว่าข้อความดังกล่าวจะมีการลบทิ้งไปแล้ว แต่ได้มีการถ่ายเอกสารและเซ็นรับรองไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม ตนไม่เร่งรัดการดำเนินคดี ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน โดยการแจ้งความในครั้งนี้กระทำในนาม กกต. ที่ไม่จำเป็นต้องรอให้ กกต.ลงมติ อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม กกต.เพื่อรับทราบต่อไป

นายสมชัยกล่าวว่า กรณีนี้ถือว่ามีองค์ประกอบการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ประชามติอย่างสมบูรณ์ อยู่ในกลุ่มสีแดง หากประชาชนพบการกระทำผิดเช่นนี้ก็สามารถแจ้งความดำเนินคดีได้เลยโดยไม่ต้องร้องต่อ กกต.เพราะเข้าข่ายกระทำผิดตามมาตรา 61 วรรค 2 ในฐานความผิดก่อให้เกิดความวุ่นวายในการออกเสียงประชามติ มีโทษจำคุก 10 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท และศาลอาจให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลาห้าปีด้วย อย่างไรก็ตาม หากมีการโพสต์ข้อความรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ โดยให้เหตุผลรองรับไม่ถือว่าผิดกฎหมายแต่เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ รวมทั้งการแสดงความเห็นทางวิชาการทางสาธารณะที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย กกต.ไม่เคยไปยุ่ง

ทั้งนี้ หวังว่าการแจ้งความครั้งนี้จะช่วยหยุดความรุนแรงและช่วยให้การทำประชามติเป็นไปอย่างสร้างสรรค์เพราะการแจ้งความครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาจะเอาผิดหรือเอาใครขึ้นศาล เข้าคุก แต่ต้องการให้เป็นแบบอย่างมีการพูดด้วยเหตุผลอย่างเป็นวิชาการและเป็นสุภาพชน แต่หากโพสต์ข้อความหยาบคาย รุนแรง ก้าวร้าวข่มขู่ ถือเป็นความผิดที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย ซึ่งตามกฎหมายว่าด้วยประชามติ ผู้พบเห็นการกระทำผิดกฎหมายทุกคนไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าพนักงาน หรือ กกต. สามารถยื่นแจ้งความด้วยตนเองได้ ส่วนจะต้องตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อดูแลเรื่องนี้หรือไม่นั้นขอให้เป็นเรื่องของที่ประชุม กกต.จะพิจารณาอีกครั้ง และในวันศุกร์ที่ 29 เม.ย. กกต.จะประชุมเพื่อกำหนดแนวปฏิบัติในส่วนกลุ่มสีเทาที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะทำได้หรือไม่ได้ ก็จะได้บทสรุปเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในวันดังกล่าวด้วย

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...