เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 มีนาคม 2563 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย(มท.2) เป็นประธานในพิธีถวายราชสักการะ และกล่าวถวายราชสดุดีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ฯ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และอ่านสารจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เนื่องในวันท้องถิ่นไทย ประจำปี2563 ณ ลาน พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ต.ท่าฉลอม อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่5 ที่ทรงมีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะตำบลท่าฉลอม เป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายอำนาจการปกครองให้ประชาชนในท้องถิ่นได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้อ่านสารในพิธีฯความว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติกำหนดให้วันที่ 18 มีนาคม ของทุกปี เป็น "วันท้องถิ่นไทย" เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้ยกฐานะตำบลท่าฉลอมขึ้นเป็นสุขาภิบาลท่าฉลอม ถือเป็น "ปฐมบทแห่งการปกครองท้องถิ่นไทย" และเป็นรากฐานการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระดับท้องถิ่นนับจากปีพุทธศักราช 2448 จวบจนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 115 ปี ประเทศไทยมีจำนวนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกรูปแบบถือเป็นหน่วยของการบริหารราชการแผ่นดินที่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชน สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆได้ตรงตามความต้องการของพี่น้องประชาชนมากที่สุด ทั้งในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต
ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ระบบสาธารณูปโภค สาธารณูปการ ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น
การให้บริการสาธารณะอื่น ๆ ไปจนถึงการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน เช่น ปัญหาภัยแล้ง ปัญหามลพิษ
ด้านฝุ่นละอองpm2.5 และที่เกิดปัญหาอยู่ในขณะนี้คือการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ COVID-19
ที่ท้องถิ่นจะต้องเข้ามามีส่วนสำคัญเพื่อควบคุมป้องกันดูแลสุขภาวะของประชาชน อันเป็นภารกิจเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ของกระทรวงมหาดไทย
“ ในนามของกระทรวงมหาดไทย ขอขอบคุณทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง
สามารถดูแลทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนคนท้องถิ่นได้เป็นอย่างดีเกิดผลสัมฤทธิ์และเป็นรูปธรรม
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่งเป็นต้นแบบที่ดี มีนวัตกรรมการพัฒนา ทั้งในมิติของคุณภาพ
ชีวิต การศึกษา สิ่งแวดล้อม สาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ อันเป็นการจัดทำบริการ
สาธารณะเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้แก่พี่น้องประชาชนคนท้องถิ่น จึงขอให้ทุกท่านร่วมกันขับเคลื่อนด้วยการสานงานต่อ ก่องานใหม่ โดยยึดหลักธรรมาภิบาล ทั้งหลักนิติธรรม คุณธรรม
โปร่งใส มีส่วนร่วม รับผิดชอบและคุ้มค่า ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เน้นการบูรณาการร่วมกันกับราชการบริหารส่วนอื่น อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อความผาสุกของพี่น้องประชาชน
คนท้องถิ่น ให้สมกับที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยได้กระจายอำนาจการปกครองให้เป็น
ของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน”