นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19ว่า ต้องขอให้กำลังใจรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องทำงานหนัก และต้องเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด19ค่อนข้างสูง แต่ด้วยภาระหน้าที่ก็ต้องขอชื่นชมต่อการเสียสละในครั้งนี้ด้วย ส่วนกระแสข่าวการเรียกร้องให้ปิดประเทศนั้น อยากให้เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของรัฐบาล เพราะรัฐบาลเป็นหน่วยงานที่มีข้อมูลในเรื่องการแพร่ระบาดไวรัสโควิด19รอบด้านมากที่สุด สามารถชั่งนำ้หนัก ประเมินผลดีผลเสียต่อการประกาศปิดประเทศได้ดีที่สุด และถ้าเกิดผลกระทบที่ตามมาภายหลังรัฐบาลก็จะเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว จึงไม่อยากจะให้ฝ่ายอื่นๆแสดงความกดดันต่อการตัดสินใจของรัฐบาล ส่วนตัวเห็นว่าสถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่วิกฤตถึงขั้นต้องปิดประเทศ เพราะถ้ามีการประกาศปิดประเทศจริง ย่อมเกิดผลกระทบตามมาเป็นลูกโซ่ ไม่ว่าความเชื่อมั่นทางเศรษฐิกิจ และสังคมต้องเกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน เพราะในขณะนี้ได้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เห็นได้ชัดที่สุดคือในเรื่องการท่องเที่ยว มีบริษัทสายการบิน ยกเลิกเที่ยวบินทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โรงแรมต่างๆยอดจองห้องพักลดลง70% และในอนาคตยอดจองห้องพักอาจจะเหลือเป็นศูนย์ ห้างสรรพสินค้าปิดเวลาทำการเร็วขึ้น ธุรกิจร้านอาหารได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะผู้คนไม่กล้าออกนอกบ้าน ไม่กล้าเดินตลาดนัด กลัวการติดเชื้อไวรัสโควิด19 การจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด ธุรกิจด้านบันเทิงต้องปิดชั่วคราว ปรากฏการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะมีผลกระทบเป็นวงกว้าง มีผลกระทบทางสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จะมีนักธุรกิจล้มละลาย คนตกงาน อัตราการวางงานสูงขึ้น ปัญหาอาชญกรรมจะตามมาอย่างแน่นอน
จึงขอให้หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องเตรียมรับมือปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาในอนาคต ถ้าเชื้อไวรัสโควิด19ยังคงแพร่ระบาดต่อไปอีกเป็นระยะเวลา6เดือนหรือ1ปี ก็จะกระทบกับชีวิตของผู้คนทั้งโลก เศรษฐกิจโลกก็จะพังพินาศไปตามๆกัน ขอเรียกร้องให้คนไทยทุกคนผนึกกำลังเพื่อนำพาประเทศไทยก้าวผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปให้ได้ ไม่ควรใช้สถานการณ์ของการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด19มาเป็นประเด็นทางการเมืองโจมตี ตอบโต้กันไปมา อยากเห็นทุกฝ่ายร่วมมือกัน เสนอปัญหาและแนวทางแก้ไขอย่างสร้างสรรค์ ขอให้ทุกฝ่ายได้ให้ความร่วมมือและทำตามข้อแนะนำหรือประกาศมาตรการต่างๆของทางราชการจะดีที่สุด