-พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชอัธยาศัยทำถูก ทำจริง เมื่อทรงพระราชดำริหรือทรงศึกษาเรื่องใด ก็ทรงพระวิริยะอุตสาหะปฏิบัติจนกว่าจะสำเร็จ ฉะนั้น เมื่อครั้งทรงผนวชทรงเริ่มศึกษาวิปัสสนาธุระก็ทรงศึกษาอย่างจริงจัง ทรงรอบรู้ทั่วถึงทุกสำนัก เมื่อทรงศึกษาคันถธุระเพียง 3 ปีก็ทรงรอบรู้แตกฉานในพระไตรปิฎกและคัมภีร์ทั้งหลายจนสามารถแปลพระปริยัติธรรม(บาลี) ถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงได้เปรียญ 5 ประโยค
ผลการส่งศึกษาพระปริยัติธรรมจนทรงรอบรู้แตกฉานในพระไตรปิฎกจนทรงพบข้อบกพร่องในวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ทั่วไปในยุคนั้น เป็นเหตุให้ทรงพระราชดำริแก้ไขปรับปรุงวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ให้ถูกต้องตรงตามพระบาลีที่มีมาในพระไตรปิฎก โดยทรงเริ่มเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อประพฤติปฏิบัติส่วนพระองค์เองขึ้นก่อน
ต่อมาจึงมีภิกษุสามเณรอื่น ๆ นิยมตามและมีผู้ปฏิบัติตามอย่างมากขึ้นจนกลายเป็นคณะสงฆ์หมู่ใหญ่ที่ได้ชื่อต่อมาในภายหลังว่า "พระสงฆ์คณะธรรมยุต" หรือ "ธรรมยุติกนิกาย" พระเถรานุเถระที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนับว่าเป็นต้นวงศ์ของคณะธรรมยุตมี 10 รูปคือ
1 สมเด็จฯ พระวชิรญาณมหาเถระเจ้า คือมพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
2 พระพรหมสรเถระ คือมพระญาณรักขิตม(สุข)วัดบรมนิวาส
3 พระธัมมสิริเถระ คือ พระเทพโมลี (เอี่ยม)วัดเครือวัลย์
4 พุทธสิริเถระ คือ สมเด็จพระวันรัตน์ (ทับ)วัดโสมนัสวิหาร
5 พระปัญญาอัคคเถระ หรือ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์วัดบวรนิเวศวิหาร
6 พระธรรมรักขิตเถระ คือพระครูปลัดทัต วัดบวรนิเวศวิหาร
7 พระโสภิตะเถระ คือ พระศรีวิสุทธิวงศ์ (ฟัก)วัดบวรนิเวศวิหาร
8 พระพุทธิสัณหเถระ คือ พระอมรโมลี (ลบ) วัดบุปผาราม
9 พระปุสสเถระ คือ สมเด็จพระสังฆราช(สา) วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม( เมื่ออุปสมบทครั้งหลังได้ฉายาว่าปุสฺสเทโว )
10 พระสุวัฒนเถระ คือ พระปลัดเรือง วัดบวรนิเวศวิหาร.