การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) อนุมัติพักชำระหนี้เกษตรกรชาวสวนยาง เป็นเวลา7 เดือน (1 มี.ค. - 30 ก.ย. 63 ) รวมเป็นเงินกว่า 700 ล้านบาท จากผลกระทบโควิด-19 และวิกฤติราคาตกต่ำ
นายประพันธ์บุญยเกียรติ ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) จัดให้มีการประชุม “วอร์รูม” ซึ่งประกอบด้วย ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย เป็นประธานฯในฐานะผู้อำนาจ และรองผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย รวมทั้งฝ่ายที่เกี่ยวข้อง 2-3 ฝ่ายโดยมีประธานบอร์ดเป็นที่ปรึกษาเพื่อติดตามผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กับเกษตรกรชาวสวนยาง
โดยที่ประชุมเมื่อ 26 มีนาคม 2563 มีมติให้กยท.บรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยางในช่วงสถานการณ์วิกฤติจากกรณีราคายางตกต่ำและการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด -19 ด้วยการให้พักช้ำระหนี้ (ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย)โดยนับรอบชำระหนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 63 ถึง 30 กันยายน 63 เพราะรอบที่เกษตรกรจะต้องชำระหนี้คือ เดือนมีนาคมนี้ ซึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่าหากให้เกษตรกรชำระหนี้ตามงวดปกติ ก็จะเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของเกษตรกรเข้าไปอีก จากราคายางที่ตกต่ำ และโรคระบาดที่กำลังเกิดขึ้น
นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเกษตรกรและสถาบันเกษตรกร การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) กล่าวว่า มาตรการพักชำระหนี้ครั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์และความเป็นจริงว่า สถานการณ์ดังกล่าวจะดีขึ้นหรือไม่ หากสถานการณ์ดีขึ้นก็กลับมาชำระหนี้ตามปกติ แต่หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ก็จะพิจารณากันอีกครั้ง หลังจากผ่านช่วงเวลาที่กำหนดเบื้องต้น
สำหรับเกษตรกรที่ได้รับการพักชำระหนี้ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ประกอบด้วย การช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง ตามมาตรา 49 (3) ที่เป็นเงินกู้ในการประกอบอาชีพการทำสวนยาง คือ เน้นในเรื่องสวนยาง มีเกษตรกรได้รับเงินกู้ทั้งหมด 620 ราย จำนวนเงิน 62,361,894 บาท และสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง เช่น สหกรณ์และกลุ่มฯต่างๆจำนวน 822 สถาบัน เป็นจำนวนเงิน 415,562,200 บาท และผู้ประกอบกิจการยางจำนวน 26 ราย เป็นจำนวนเงิน 27,358,500 บาท
นอกจากนี้ยังมีการช่วยเหลือ ตามมาตรา 49 (5) สำหรับผู้กู้ไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนประกอบอาชีพเสริมนอกเหนือจากการทำสวนยางมีทั้งหมดตั้งแต่ปี 2560-2563 จำนวน 4,221 ราย เป็นเงินจำนวน 211,024,853 บาท