ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คอลัมนิสต์ประจำอปท.นิวส์ ย้อนกลับ
เงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ
04 มิ.ย. 2564

เขียนให้คิด : โดย ซีศูนย์

เงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ

สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพ ช่วงนี้ดีที่สุดคือการเฝ้าบ้านหรือจะ “work from home “ กันอีกระยะ นานไม่นานต้องดูวินัยคนไทยที่เป็นเรื่องของพวกเราโดยตรงนะครับ ลดละความสนุกสนานสักพักให้โรคนี้มันน้อยลง ก็ต้องยอมรับว่า คนเดือดร้อนทั้งประเทศครั้งนี้เกิดจากคนไม่กี่กลุ่ม โดยเฉพาะคนที่อยู่ในตำแหน่งอำนาจ ครั้งหน้าคนเราเจ็บต้องจำอย่าไปสนับสนุนหรือเลือกให้มาเป็นตัวแทนพวกเราอีก

มาเล่าเรื่องท้องถิ่นอีกสักเรื่องครับ ท่านผู้อ่านที่อยู่หน่วยงานท้องถิ่นคงจำได้ว่า นอกจากเรามีเงินเดือนค่าตอบแทนหลายอย่างแล้ว ยังมีเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ หรือที่เราเรียกว่า โบนัส เงินประโยชน์ตัวนี้ให้เพื่ออะไรครับ ก็เพื่อเป็นขวัญกำลังใจข้าราชการที่มุ่งมั่นในการทำงาน หลายปีก่อนข้าราชการก็เคยมีอยู่สักพักหนึ่ง มาเดี๋ยวนี้น่าจะเลิกไปแล้ว

ท้องถิ่นเองก็มีเช่ นเดียวกันวัตถุประสงค์ที่ให้ก็เช่นเดียวกัน เดี๋ยวนี้เลิกไปแล้วหรือยังครับ แต่เมื่อครั้งที่มีการแจกเงินโบนัสกันเมื่อหลายปีก่อนนั้น ป.ป.ช.เคยรับเรื่องร้องเรียนผู้บริหารท้องถิ่น คือตัวนายกมากมายบ้างก็เรียกเปอร์เซ็นต์ ต่อรองผลประโยชน์ในตำแหน่งบ้าง หรือแม้กระทั่งไม่ถูกกันเป็นส่วนตัวบ้าง มีการชี้มูลตัวผู้บริหารกันนับสิบราย

มีเรื่องเล่ากันว่าที่ อบต.แห่งหนึ่ง ผู้ร้องรายนี้เป็นถึงปลัด อบต. ร้องเรียน นายก อบต. ซึ่งเป็นเจ้านายตัวเองว่า ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ไม่เบิกจ่ายเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษให้ ซึ่งข้อเท็จจริงฟังว่า คณะกรรมการพิจารณาเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ ได้มีมติให้กันเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ ส่วนของปลัด อบต.ผู้ร้องรายนี้เพื่อรอผลการพิจารณาการประเมินเลื่อนขั้นเงินเดือนจากคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดก่อน เมื่อคณะกรรมการฯมีมติให้ประเมินการเลื่อนขั้นเงินเดือนของปลัดคนนี้ใหม่ อบต.นั้น จึงมีคำสั่งแก้ไขเปลี่ยนแปลงการประเมินในปีงบประมาณนั้น ทำให้ปลัดที่เป็นผู้ร้องนี้ได้เลื่อนขั้นเงินเดือนทั้งปีรวม 1 ขั้นแล้ว

ดังนั้น ปลัดผู้ร้องรายนี้ จึงถือเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัด ซึ่ง อบต.นั้นได้ทราบผลการประเมินดังกล่าว และมีคำสั่งเลื่อนเงินเดือนพร้อมเบิกจ่ายเงินเดือนตกเบิกแก่ปลัดผู้ร้อง แต่ส่วนของเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษนั้น กลับไม่มีการเบิกจ่ายให้ตามที่คณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดมีมติ แม้ว่าปลัดผู้ร้องจะมีหนังสือขอรับเงินเดือนตกเบิกและเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษของปีงบประมาณนั้นก็ตาม

นอกจากนี้แล้ว ทางอำเภอยังมีหนังสือเรื่องของปลัดผู้ร้องรายนี้เกี่ยวกับการรับเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ แจ้งไปให้ อบต.แห่งนั้นดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อีกทางแล้ว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ของ อบต.ที่ทำหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการรับส่งหนังสือสองคนก็ยืนยันว่า มีการเสนอหนังสือทั้งของปลัดผู้ร้องและอำเภอให้นายก อบต.ทราบแล้ว

เท่านั้นไม่พอ ตัวปลัด อบต.คนใหม่ที่ไปทำหน้าที่แทนปลัดผู้ร้องกับหัวหน้าสำนักปลัด ต่างให้การสอดคล้องกันอีกว่า ได้รายงานเรื่องดังกล่าวให้นายกผู้ถูกร้องทราบแล้ว แต่นายกกลับเพิกเฉยไม่มีการสั่งการให้ดำเนินการอย่างใด ที่สำคัญครับท่านผู้อ่าน เรื่องปลัดคนเก่าที่เป็นผูร้อง แกไปร้องอำเภอที่ อบต.นั้นตั้งอยู่ นายอำเภอได้ให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ได้ความสรุปว่า นายกผู้ถูกร้องไม่ได้เบิกจ่ายเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ ตลอดจนไม่ได้แจ้งข้อขัดข้องให้อำเภอทราบแต่อย่างใด จนกระทั่งต่อมานายกผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตำแหน่ง ทำให้เงินงบประมาณที่กันไว้เพื่อเป็นค่าตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษเมื่อสิ้นปีงบประมาณ จึงตกเป็นเงินสะสมไม่สามารถนำมาเบิกจ่ายได้อีก ปลัดผู้ร้องรายนี้จึงไม่ได้รับเงินที่ตนควรได้จึงต้องถือเป็นผู้เสียหายจากการกระทำของนายก อบต.ผู้ถูกร้อง ที่จงใจละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการไม่เบิกจ่ายเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษในปีงบประมาณนั้น

ถามว่า แล้วโดนอะไรบ้างครับ เอาแค่เรื่องถอดถอน แต่รายนี้พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว จึงไม่ต้องถอดถอนอะไรอีก แต่ทางอาญาสิครับ หนักหนา โดน 157 ก็เหนื่อยละครับ เรื่องกลั่นแกล้งลูกน้องไม่จ่ายเงินให้โยกโย้กันจนเป็นเรื่องแบบนี้มีอยู่เยอะนะครับ แต่บางแห่งผู้บริหารท้องถิ่นบางรายเบิกจ่ายค่าตอบแทนให้ลูกหลานตัวเองให้มีชื่อไปนั่งเป็นเลขานุการทั้งที่ไม่ได้ไปทำงานจริง จนถูก ป.ป.ช.ชี้มูล และศาลอาญาคดีทุจริตพิพากษาลงโทษจำคุก 50 ปี แถมยังโดนลูกน้องตัวเองที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกสองสามคนๆ ละห้าสิบปี เข้าไปด้วย  

อย่างไรก็ตาม มีหลายเรื่องที่เกี่ยวกับการบริหารงานแต่ไม่ใช่เรื่องทุจริต ป.ป.ช.ก็จะไม่รับ เช่น มีเรื่องนายก อบต.กล่าวหารองนายก ของ อบต.ตัวเองว่า ไม่เอาใจใส่การบริหารงานของ อบต. ซึ่งเมื่อไปแสวงหาข้อเท็จจริงแล้วก็ไม่ปรากฎว่ามีเรื่องทุจริตอย่างไร เป็นเพียงการกล่าวหาเกี่ยวกับการปฎิบัติหน้าที่ ซึ่งนายกคนนี้แกมีคำสั่งแต่งตั้งรองนายกพวกของแกเองนั้นละครับ โดยในคำสั่งเพียงบอกว่า มีหน้าที่ช่วยเหลือในการบริหารราชการตามที่นายกมอบหมาย แต่ไม่ปรากฏว่าให้รับผิดชอบเป็นการเฉพาะแต่อย่างใด เป็นเพียงสั่งการด้วยวาจาหรือสั่งงานผ่านคนอื่นไปบอกให้ จึงเป็นเรื่องการบริหารงานบุคคลแท้จริง แต่เมื่อเห็นว่ารองนายกไม่เอาใจใส่ในการบริหารงาน นายกจึงมีคำสั่งให้รองนายกพ้นจากตำแหน่งไป

เรื่องนี้ถ้าจะสอบต่อไป ก็ไม่มีเหตุที่จะให้รองนายกพ้นจากตำแหน่งซ้ำอีก ทั้งไม่ปรากฏว่า รองนายกปฎิบัติหรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และนายกเองก็มีส่วนบกพร่องในการบริหารงานบุคคลของ อบต.ที่ไม่มีการมอบหมายเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นการเฉพาะให้รองนายก ป.ป.ช.เขาจึงไม่รับพิจารณาเรื่องประเภทนี้ ครับ ก็คงเป็นเรื่องไม่ถูกใจกัน ก็หาเรื่องกันทั้งที่แรกเริ่มก็หาเสียงมาด้วยกัน มันเป็นเช่นนี้ละครับท่าน

เครดิตภาพ : https://mgronline.com/politics/detail/9630000034561

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...