ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คอลัมนิสต์ประจำอปท.นิวส์ ย้อนกลับ
ฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าว 2021
18 พ.ค. 2564

โลกของจีน : โดย ชัยวัฒน์ วนิชวัฒนะ

ฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าว 2021

 

การประชุมฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าว (Boao Forum for Asia) ที่ตำบลโป๋อ๋าว เมืองฉุงไห่ มณฑลไห่หนาน หรือที่คนไทยเรียก “เกาะไหหลำ” เมื่อวันที่ 18-21 เมษายน 2021 จบไปแล้ว แต่สาระสำคัญจากเวทีโดยเฉพาะสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่กล่าวในงานนี้ไม่ควรปล่อยผ่าน

ธีมของการประชุมครั้งนี้คือ “โลกที่กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง : ร่วมมือกันเสริมสร้างการบริหารโลกและขับเคลื่อนความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง

“ฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าว” เป็นเวทีประชุมระหว่างประเทศที่ไม่มุ่งหวังกำไร ปัจจุบันได้กลายเป็นเวทีการเจรจาระดับสูงเกี่ยวกับประเด็นสำคัญในทั้งเอเชียและทั่วโลกระหว่างผู้นำรัฐบาล วงการธุรกิจ และวิชาการที่เกี่ยวข้องในทวีปเอเชียและทวีปอื่นๆ ฟอรั่มดังกล่าว มุ่งจะรวบรวมกำลังทางเศรษฐกิจในภูมิภาค เพื่อผลักดันให้ประเทศต่างๆ ในเอเชียบรรลุเป้าหมายการพัฒนา

จากที่จัดครั้งแรกในปี 2001 ถึงปัจจุบัน 2021 เป็นปีที่ 20 นักวิชาการชั้นนำบางคนให้ความเห็นว่า เวทีนี้มีความสำคัญเทียบเท่าฟอรั่มเศรษฐกิจระดับโลกอย่าง “Davos” สวิตเซอร์แลนด์ แม้จะไม่มีผู้นำจากชาติตะวันตกอย่างสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมก็ตาม

ประเทศไทยเราก็เคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเอเชียโป๋อ่าว ที่กรุงเทพฯ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2017 ในหัวข้อ  “ความร่วมมือระดับภูมิภาคเอเชีย: ความท้าทายใหม่ และแนวคิดใหม่” (Asia Regional Cooperation: New Challenges, New Approach) 

ยามปกติที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมจะเชิญผู้นำระดับโลก ผู้นำทางเศรษฐกิจ นักวิชาการ ผู้นำองค์กรด้านการพัฒนา รวมถึงสื่อมวลชนจากทุกภูมิภาคทั่วโลกนับพันคนเข้าร่วมงานที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยปีนี้จัดแบบผสมผสาน ออฟไลน์กับออนไลน์ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นของเอเชียในการเอาชนะโควิด-19 และกำลังฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยมีจีนเป็น “แกนนำ” หรือ “เสาหลัก”

หัวข้อหนึ่งของวงประชุมย่อยที่เรียกความสนใจได้อย่างมากคือ “เส้นทางสายไหมแห่งสุขภาพ (Silk Road of Health)” ซึ่งมีการพูดถึง “วัคซีน”กับ “หนังสือเดินทาง”

รายงานนำทาง (flagship) 2 ฉบับได้แก่ “อนาคตทางเศรษฐกิจและกระบวนการรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวของเอเชีย” และ “เอเชียกับทั่วโลกท่ามกลางการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ที่เผยแพร่ในงานนี้ระบุว่า ปี 2021 เอเชียจะกลายเป็นกำลังสำคัญแห่งการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของทั่วโลก การเติบโตทางเศรษฐกิจของเอเชียคาดการณ์ว่า จะมากกว่า 6.5% และสถานการณ์โรคระบาดยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินการทางเศรษฐกิจของเอเชีย

สำหรับสุนทรพจน์เปิดการประชุมของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่โลกได้ติดตามรับฟังไปแล้วนั้นค่อนข้างยาว ขอคัดย่อเอาที่เด่นๆ มานำเสนอไว้ดังนี้

ขณะนี้การเปลี่ยนแปลงของโลกและโรคระบาด ซึ่งเกิดขึ้นทับซ้อนกันอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน ในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา ได้นำโลกเข้าสู่ช่วงเวลาที่ไม่สงบและช่วงการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ปัจจัยที่ไม่มั่นคงและไม่แน่นอนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ประชาคมมนุษย์กำลังเผชิญประเด็นปัญหาต่างๆ ที่รุนแรงขึ้น เช่น ขาดการบริหารโลก ขาดความน่าเชื่อถือ ขาดการพัฒนา และขาดสันติภาพ

อนาคตของโลกต้องถูกตัดสินจากการร่วมกันทำงานของทุกประเทศทั่วโลก ไม่ควรนำกฎระเบียบที่กำหนดขึ้นโดยประเทศเดียว หรือไม่กี่ประเทศมายัดเยียดให้แก่ประเทศอื่น หรืออนุญาตให้ลัทธิเอกภาคีที่สนับสนุนโดยบางประเทศมากำหนดจังหวะของทั่วโลก

สิ่งที่เราต้องการในโลกปัจจุบันคือความยุติธรรม ไม่ใช่การครองความเป็นเจ้า ประเทศใหญ่ต้องทำตัวให้เหมาะกับฐานะของตน ต้องแสดงออกถึงความรับผิดชอบมากขึ้น (คงเข้าใจว่าหมายถึงประเทศไหน)

ต้องปฏิเสธแนวความคิดการทำ “สงครามเย็น” และแนวความคิด “แพ้-ชนะ” คัดค้านการทำ “สงครามเย็นใหม่” และการเผชิญหน้ากันในรูปแบบจิตสำนึกไม่ว่าในรูปแบบใดก็ตาม สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับรัฐ หลักการปฏิบัติต่อกันอย่างเสมอภาคเท่าเทียม เคารพซึ่งกันและกัน และเชื่อถือต่อกันต้องเป็นหลักการที่วางอยู่เบื้องต้น การปฏิบัติต่อประเทศอื่นด้วยความยโสโอหังและการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นนั้นจะไม่ได้รับการสนับสนุนจากใคร

ประธานาธิบดี สี กล่าวโยงโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางกับการแก้ปัญหาโควิด-19 ว่า เราจะสร้างความสัมพันธ์หุ้นส่วนแห่งความร่วมมือด้านสาธารณสุขที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น วิสาหกิจจีนได้ดำเนินการร่วมผลิต “วัคซีน” ในประเทศหุ้นส่วนที่ร่วมสร้างสรรค์ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” เช่น อินโดนีเซีย บราซิล สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มาเลเซีย ปากีสถาน และตุรกี เป็นต้น เราจะขยายความร่วมมือกับฝ่ายต่างๆ ด้านการป้องกันควบคุมโรคระบาด สาธารณสุข การแพทย์ และยารักษาโรคที่มีมาแต่ดั้งเดิม เป็นต้น ร่วมกันคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและสุขภาพของประชาชนประเทศต่างๆ

รายงานที่เกี่ยวข้องของธนาคารโลกระบุว่า ภายใน ค.ศ.2030 การร่วมสร้าง “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” อาจช่วยเหลือประชากรโลก 7.6 ล้านคนให้หลุดพ้นจากความยากจนสุดขีด ส่วนอีก 32 ล้านคน จะหลุดพ้นจากความยากจนระดับปานกลาง

ประโยคทองของสุนทรพจน์ในฟอรั่มเอเชียโป๋อ๋าวปีนี้คือ “ จีนจะไม่ครองความเป็นเจ้า ไม่แผ่ขยายอำนาจ ไม่แสวงหาเขตอิทธิพล และไม่ดำเนินการแข่งขันเชิงกำลังอาวุธ” (เป็นอีกครั้งที่ผู้นำจีนกล่าวเรื่องนี้เพื่อลดความกังวลต่อนานาชาติ)

จีนจะเข้าร่วมความร่วมมือพหุภาคีทางการค้าและการลงทุนอย่างแข็งขัน ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการลงทุนของพ่อค้าต่างชาติและกฏระเบียบประกอบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ลดรายการห้ามลงทุนของทุนต่างชาติให้น้อยลงต่อไป ขับเคลื่อนการสร้างสรรค์ “เมืองท่าการค้าเสรีไห่หนาน” ตลอดจนผลักดันการสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่แบบเปิดกว้างในระดับที่สูงยิ่งขึ้น

          ประโยคสุดท้ายที่สี จิ้นผิงกล่าวคือ “ขอต้อนรับทุกฝ่ายแบ่งปันโอกาสอันยิ่งใหญ่ของตลาดจีน

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 พฤศจิกายน 2567
อปท.นิวส์เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
12 ก.ย. 2567
กล่าวได้ว่าบทบาทของตำรวจไทยทั้งในอดีตและปัจจุบัน หลายท่านหลายคน หลังจากผ่านความเหน็ดเหนื่อย ความยากลำบากในการผดุงความยุติธรรม ไล่จับคนร้ายทั้งตัวใหญ่ตัวเล็กมาตลอดชีวิตราชการ เห็นความทุกข์ยาองประชาชน เห็นปัญหาของสังคมในทุกแง่มุม อดไม่ได้ที่หลังเกษียณจะก้าวเข้าส...