กล่าวได้ว่าในบรรดาธุรกิจน้อยใหญ่ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อโลกเข้าสู่ยุคของวิวัฒนาการด้านคอมพิวเตอร์ ธุรกิจทางด้านเป็นผู้ผลิตซอฟต์แวร์ ที่สามารถออกแบบและติดตั้งระบบสำหรับธุรกิจต่างๆ นั้น แต่เติบโตขึ้นอย่างมาก แต่ก็ใช่ว่าจะยืนอยู่ได้ทุกบริษัท เพราะทั้งการแข่งขันสูง วิวัฒนาการของเทคโนโลยีก็เป็นไปอย่างรวดเร็วมาก จึงต้องอาศัยความชำนาญและความแข็งแกร่งของผู้บริหารเป็นอย่างยิ่ง
และ อปท.เชิญเป็นแขก ฉบับนี้ ก็จะขอนำท่านผู้อ่านมารู้จักกับผู้บริหารท่านหนึ่งที่ปัจจุบันได้นำพาบริษัทของเขาให้สามารถขยายเครือข่ายไปได้อย่างกว้างขวางยิ่งในแวดวงผู้ออกแบบและติดตั้งระบบและโซลูชั่นต่างๆ สำหรับธุรกิจและท่านนั้นก็คือ ดร.ปรีชา คฤหวาณิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทวินเซิร์ฟ คอร์ปอเรชั่น ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยี ที่ขับเคลื่อนโดยมุ่งเน้นความสำเร็จของลูกค้าเป็นสำคัญ ที่เข้าใจถึงความต้องการ และพร้อมที่จะแก้ปัญหาเพื่อกลายเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าแสวงหาโดยปัจจุบันมีบริษัทในเครือข่ายประกอบด้วย บริษัท คอมเซิร์ฟ สยาม จำกัดบริษัท อินซิ้งค์ เทคโนโลยี จำกัดบริษัท วูโคร่ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท บลูซี เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด
หรือกล่าวได้ว่า กลุ่มบริษัทวินเซิร์ฟ คอร์ปอเรชั่น คือหนึ่งในนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการสร้างธุรกิจด้วยตนเอง จากแนวคิดที่มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและเห็นถึงความสำคัญคนรุ่นใหม่ พร้อมมีหัวใจที่อุทิศให้กับสังคมในหลายมิติ ทำให้ ดร.ปรีชา คือบุคคลต้นแบบที่เราอยากจะพูดถึงในครั้งนี้
ดร.ปรีชา คฤหวาณิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทวินเซิร์ฟ คอร์ปอเรชั่น ได้เล่าถึงพื้นเพเอาไว้ว่าเป็นคนกรุงเทพมหานคร ครอบครัวประกอบอาชีพจำหน่ายยาทั้งแผนจีนและแผนปัจจุบัน มีพี่น้อง 6 คน โดยดร.ปรีชาเป็นบุตรชายคนโต ภายหลังพี่น้องทุกคนแต่งงานต่างก็แยกย้ายไปประกอบธุรกิจที่แตกต่างกันไป เมื่อสิ้นบุญ บิดา มารดา จึงหยุดกิจการเนื่องจากไม่มีผู้สานต่อธุรกิจเดิมของครอบครัว
ดร.ปรีชา เล่าว่า ในวัยเด็กชอบเรียนรู้เกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์ มีความสนใจแบบเชิงลึกจึงเริ่มจากหัดซ่อมวิทยุของคุณพ่อ ต่อมาเริ่มศึกษาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ โดยไปเรียนรู้จากร้านซ่อมวิทยุของลูกพี่ลูกน้อง ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งชอบ จึงเป็นที่มาของการเลือกเรียนวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอิเล็กทรอนิกส์สื่อสารที่สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตเทเวศร์ในขณะนั้น ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
หลังสำเร็จการศึกษาได้เริ่มทำงานที่บริษัทโอลิมเปีย ประเทศไทย ต่อมาได้เข้าทำงานที่ บริษัทอีริคสัน ประเทศไทย และภายหลังเมื่อแต่งงานแล้ว จึงได้เริ่มทำธุรกิจของตัวเองในชื่อบริษัท วินเซิร์ฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัดจากนั้นได้เรียนต่อปริญญาโทสายบริหารธุรกิจโทรคมนาคม ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และปริญญาเอกสาขารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย เพื่อนำความรู้มาต่อยอดในการดำเนินธุรกิจซึ่ง ดร.ปรีชา ได้เล่าถึงประสบการณ์ทำงานเพื่อสังคมเอาไว้ว่า
“โดยในด้านการทำงาน การทำประโยชน์ต่อสังคมเป็นเป้าหมายแต่เริ่มแรก ตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ ผมมีนโยบายในการทำโครงการ CSR sustainable giving มาอย่างต่อเนื่อง เป็นโครงการทั้งในเรื่องการรักษ์สิ่งแวดล้อม เรื่องการสนับสนุนเยาวชนรักการอ่าน การมอบทุนนักศึกษาแพทย์ตั้งแต่ปีแรกจนจบการศึกษา เรื่องความช่วยเหลือในวิกฤติภัยต่างๆ เช่น น้ำท่วม โควิด อื่นๆ โครงการเหล่านี้ทำกันมาต่อเนื่องยาวนาน และยังคงมุ่งมั่นที่ทำต่อไป โดยหวังที่จะเป็นหนึ่งเป็นฟันเฟืองของการพัฒนาคนและสังคมของประเทศชาติ”
ดร.ปรีชา บอกอีกว่า นอกจากโครงการของเราเองที่กล่าวมาแล้วดร.ปรีชายังได้รับเกียรติเป็นประธานที่ปรึกษาภาคประชาสังคม ชมรมลมวิเศษ ซึ่งเป็นชมรมที่ก่อตั้งโดย รศ.นพ.สุทัศน์ รุ่งเรืองหิรัญญา ในสังกัดแพทย์สมาคมแห่งประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือให้ความรู้กับผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง สิ่งที่ได้ทำประโยชน์คือ การนำความรู้เทคโนโลยี และ ทีมงานเข้าไปให้การสนับสนุนงานของชมรมฯ ในการติดตามอัพเดทผู้ป่วยด้วยสายรัด wristband ซึ่งสามารถบอกประวัติของผู้ป่วยได้ละเอียด และภารกิจอื่นๆของชมรมฯ ที่ทีมงานสามารถช่วยได้
นอกจากนี้ ดร.ปรีชายังเป็นนายกก่อตั้งสมาคมเทคโนโลยีสุขภาพไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนงานวิจัยให้เกิดประโยชน์และพัฒนาต่อได้จริง เพื่อให้คนไทยมีทางเลือกมากขึ้นจากนวัตกรรมต่างๆที่ผู้วิจัยได้คิดและนำเสนอ
“อีกบทบาททางสังคมที่ทำอย่างทุ่มเทในการคืนเด็กและเยาวชนน้ำดีสู่สังคม ด้วยการทำหน้าที่ผู้พิพากษาสมทบ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดปทุมธานีซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีเยาวชนที่อาจหลงทาง ผิดพลาด และพลิกคืนกลับมาเป็นเยาวชนน้ำดีของครอบครัวและสังคม การดำรงตำแหน่งทางสังคมเหล่านี้ได้เปิดโอกาสให้ผมยิ่งสามารถช่วยเหลือ ทุ่มเทความสามารถอย่างเต็มที่เต็มกำลังอย่างต่อเนื่อง”ดร.ปรีชา กล่าว
ในด้านบทบาทของประธานกลุ่มบริษัทวินเซิร์ฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด นับเป็นความท้าทายที่ได้ทำในสิ่งที่ไม่เหมือนกันในแต่ละบริษัทในกลุ่ม เช่น บริษัทคอมเซิร์ฟสยาม จำกัด เน้นความเป็น SI ซึ่งในโลก SI ถือว่ากว้างใหญ่ เพราะประกอบด้วยเทคโนโลยีหลากหลายที่เราต้องเรียนรู้ตลอดเวลา ในขณะที่มีบริษัท อินซิ้งค์ เทคโนโลยี นำเข้าอุปกรณ์สื่อสาร และพัฒนาเทคโนโลยีบน hardware ต่างๆ ยังมีอีกหนึ่งความยากมากคือ การเป็นผู้ผลิตซอฟแวร์สัญชาติไทย โดยบริษัทบลูซี เอ็นเตอร์ไพรส์ ซึ่งปัจจุบันผลิตซอฟแวร์หลากหลายใช้ในองค์กรภาครัฐและเอกชนมากมาย
ความท้าทายทางเศรษฐกิจและความท้าทายของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วอย่างมาก ทำให้ทุกฝ่ายต้องทำงานหนักกันทั้งทีมเพื่อก้าวให้ทันยุค ทันสถานการณ์ อยู่ตลอดเวลาโดยบริษัท วินเซิร์ฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัดคือผู้นำด้านเทคโนโลยีแบบครบวงจรของประเทศไทย ทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ กลุ่มบริษัท วินเซิร์ฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้วางกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อเป็นพันธมิตรซึ่งเป็นที่ต้องการมากที่สุดสำหรับองค์กรทีต้องการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ไปสู่ยุคเทคโนโลยีเพื่อกลายเป็นองค์กรชั้นนำของประเทศ ที่พร้อมจะมอบบริการที่ดีที่สุด ควบคู่ไปกับการบริการออกแบบและติดตั้งโซลูชันเทคโนโลยีระดับมืออาชีพ
“สำหรับด้านหลักคิดในการทำงานคือ แค่ทำให้ทันสถานการณ์น่าจะไม่พอ ต้องทำให้มากกว่าสถานการณ์เสมอ คือ ต้องคิดและเสนอสิ่งที่มากกว่าลูกค้าต้องการ ผลลัพธ์คือ ลูกค้าไม่ต้องซื้อใหม่หรือจ่ายเพิ่ม เมื่อคิดได้ว่าต้องมีสิ่งนั้นหรือฟังก์ชั่นนั้น และหลักคิดนี้ได้ถ่ายทอดกันในองค์กร เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ลูกค้ามีความไว้ใจ และอยากใช้เราทุกเรื่อง เพราะเราคิดให้ อะไรที่ไม่ดีไม่จำเป็น เราแนะนำและเติมเต็มเสมอ”
“ถามเรื่องการรับมือกับอุปสรรค อยากจะตอบเรื่องนี้มากว่า อุปสรรคไม่มีตัวตน ทำได้ก็คือได้ ทำไม่ได้ก็พยายามต่อ ก็ไม่ต้องคำนึงว่า เขาเรียกว่าอุปสรรคหรือเปล่าแต่เราไม่เรียก เราก็ทำต่อ พยามต่อ อาจสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง แต่ทุกเรื่องที่ทำได้ประสบการณ์เพิ่มเสมอ”
ดร.ปรีชา ยังกล่าวถึงหลักคิดในการดำเนินชีวิตด้วยว่า คิดว่าไม่เคยตั้งหลักนะ แต่ด้วยความเป็นผู้นิสัยโกรธง่าย หายเร็ว ลืมเรื่องที่โกรธ จำไม่ได้เลย จึงเป็นความบังเอิญที่ทำให้เรามีความสบายใจ แต่ก็ถูกปลูกฝั่งมาในวัยเด็กจากคุณพ่อคือ ทำการค้าต้องไม่โกงใคร ไม่เอาเปรียบใคร ก็ประยุกต์ใช้ในการทำงานและชีวิตส่วนตัวที่ไม่เคยเอาเปรียบใคร ซึ่งทำให้สบายใจ และเป็นเกราะคุ้มครองหรือเป็นเครดิตของเรา เวลาเครียดไม่ค่อยมีแต่ใช้เวลาว่างสงบนิ่งด้วยการฝึกสมาธิ ฝึกใจให้หยุด ความนิ่งสงบจะลบความเครียดได้ถ้ามีในขณะนั้น
ประธานกรรมการบริหารฯ กล่าวอีกว่า เป้าหมายหลังจากนี้ อยากเห็นเด็กไทยที่ตั้งใจมีอนาคตและมีแรงไปต่อ จริงๆแล้วไม่ใช่เป้าหมายหลังจากนี้ แต่เป็นเป้าหมายที่ทำแล้ว และให้บุตรสาวมาสานต่อ เพราะเป็นคนรุ่นใหม่เหมือนกัน ซึ่งได้ทำในเรื่องการลงทุนกับสตาร์ทอัพไทย เพื่อให้มีแรงไปต่อ และไปเติบโตได้จริงจัง ทำในเรื่องความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยผลิตนักศึกษาที่จบมาและทำงานได้ทันทีในด้านเทคโนโลยี สิ่งเหล่านี้น่าจะคือเป้าหมายจากนี้ไปที่จะทำ และพัฒนา เป้าหมายไปเรื่อยๆ เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคม เยาวชน และการแข่งขันอย่างมีศักยภาพของคนไทยในเวทีโลก