การวิเคราะห์เชื่อมโยงพัฒนาการของกฎหมายมั่นคงในพื้นที่ความขัดแย้งรุนแรงในจังหวัดชายแดนใต้กับการพัฒนาเมืองที่อยู่ในบริบทปัจจุบัน ซึ่งดูจากแผนการพัฒนาจังหวัดและเมืองในรอบ 5- 10 ปีที่ผ่านมาและการบรรลุเป้าหมายตามตัวชี้วัด SDGs เป้าาหมายที่ 11: ทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มีความครอบคลุม ปลอดภัย มีภูมิต้านทานและยั่งยืน (Make cities and human settlements inclusive, safe, resilient and sustainable) มีเป้าประสงค์ครอบคลุมในหลายประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเมืองและชุมชน อาทิ การเข้าถึงที่อยู่อาศัยและบริการพื้นฐาน , การยกระดับชุมชนแออัด การเข้าถึงคมนาคมขนส่งที่ยั่งยืน ปลอดภัย จ่ายได้ และคำนึงคนเปราะบางกลุ่มต่าง ๆ ด้วย การวางแผนของบริหารจัดการการเมืองและชุมชนอย่างมีส่วนร่วม บูรณาการและยั่งยืน
กฎหมายพิเศษ หรือ กฎหมายความมั่นคง เป็นกฎหมายที่มีเนื้อหาให้อำนาจรัฐจัดการกับสถานการณ์พิเศษ หรือปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในรัฐในยามที่กฎหมายปกติทั่วไป ไม่อาจจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพเหตุผลเบื้องหลังของกฎหมายความมั่นคงเหล่านี้โดยรวมคือความต้องการที่จะจัดการกับภัยคุกตามความสงบเรียบร้อยอันเป็นความเสียงต่อการดำรงอยู่ของรัฐ และของสังคม ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญ และจำเป็นต่อรัฐในสถานการณ์ทางการเมืองอันไม่ปกติ ทำให้รัฐสามารถระงับ ยับยั้ง หรือแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงทีอย่างไรก็ตามทันทีที่มีการบังคับใช้เครื่องมือดังกล่าว ย่อมส่งผลให้บรรดากฎ ระเบียบทางการเมืองในภาวะปกติถูกระงับ หรือยกเลิกไปชั่วคราวด้วย และถูกแทนที่ด้วยอำนาจพิเศษภายใต้ระเบียบทางการเมืองในสภาวะยกเว้นขึ้นมาซึ่งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะมี กฎหมายมั่นคงในพื้นที่มี 3 ฉบับ ด้วยกันที่ใช้อยู่คือ พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ. 2457 พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ซึ่งกฎหมายทั้งสามฉบับนี้ มีผลต่อการพัฒนาการเมืองในจังหวัดปัตตานี จังหวัด ยะลา จังหวัดนราธิวาส และ จังหวัดสงขลาใน 4 อำเภอ ( จะนะ/นาทวี /เทพา/สะบ้าย้อย )
ในทศวรรษที่ผ่านมา หลักนิติธรรมในฐานะเป็นเงื่อนไขหรือปัจจัยสําคัญของ กระบวนการพัฒนาของมนุษย์ได้รับความสนใจมากขึ้น และเป็นที่ยอมรับกันว่า หากกฎหมายไม่สามารถใช้บังคับได้อย่างเสมอภาคสําหรับทุกคน ไม่ว่าใครจะมีสถานะหรือตําแหน่งอย่างใด ดังนั้น เมื่อพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างหลักนิติธรรมกับยุทธศาสตร์การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน หลักนิติธรรมจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาด้านต่าง ๆ ดังนี้ เช่น การปกป้องสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติในเมือง ปัจจัยในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจเมือง ปัจจัยในการส่งเสริมความยุติธรรมในด้านสังคมและเศรษฐกิจในเมือง ปัจจัยในการป้องกัน บรรเทาและการลงโทษ อาชญากรรม ความรุนแรงและ ความขัดแย้งในสังคมเมือง ปัจจัยของหลักการยอมรับการตรวจสอบได้ (Accountability) และการลดการคอรัปชั่นในเมือง และปัจจัยส่งเสริมการจัดทําบริการสาธารณะของเมืองให้มีความเป็นธรรม เป็นต้น
หากหลักนิติธรรม โดยเฉพาะกฎหมายความมั่นคงที่ดำเนินการกับกิจกรรมในพื้นที่อย่างเข้มข้น ส่งผลให้บรรยากาศของเศรษฐกิจและสังคมในเมืองถูกแช่แข็งไว้ รวมถึงบรรยากาศในการลงทุนและกิจกรรมทางเศรษฐกิจอื่นๆ และอาจจะส่งผลกระทบในเชิงจิตวิทยาของคนในพื้นที่ เช่น เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบมากขึ้น หลายจุดรัฐใช้กฎหมายความมั่นคงมากขึ้น โดยเฉพาะการยกระดับความเข้มข้นในเชิงปฏิบัติ จะทำให้เกิดความตึงเครียดกับฝ่ายพลเรือนในเมืองในการดำเนินกิจกรรมที่จะทำให้เมืองพัฒนาไปได้อย่างยั่งยืน ....คำถามสำคัญคือ ทุกภาคส่วนควรจะมีส่วนในกระบวนการแก้ไขสันติภาพและปลดล๊อคกฎหมายความมั่นคงบางฉบับให้เหมาะสมกับสถานการณ์และพื้นที่
คอลัมน์ : รอบรั้วสถาบันพระปกเกล้า โดย : ศูนย์สื่อสารองค์กร
เขียนโดย ดร.อภิญญา ดิสสะมาน
นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ สำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า