ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
นายกรัฐมนตรีประชุม ครม. สัญจร ครั้งที่ 3 และตรวจราชการ จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์
04 พ.ค. 2561

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ร่วมเดินทางไปยังจังหวัดสุรินทร์และจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อตรวจราชการในพื้นที่เขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 พร้อมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2561  ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารอเนกคุณาคาร มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 7-8 พฤษภาคม 2561 ประกอบด้วย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รอง นรม.  พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ รอง นรม. พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว. มท. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต. นร. นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว. กก.  นายกฤษฎา บุญราช รมว. กษ. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ  รมว. คค.  พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทส. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  รมว. พณ. และนายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว. วธ.

นายกรัฐมนตรีและคณะ จะลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 หรือ กลุ่มจังหวัด “นครชัยบุรินทร์” ประกอบด้วย จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์ โดยมีเป้าหมายเพื่อติดตามประเด็นการพัฒนาที่สำคัญ ได้แก่ การพัฒนาโครงข่ายและคุณภาพของโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมทั้งทางอากาศและทางถนน  การพัฒนาการค้าชายแดน  การพัฒนาด้านการกีฬาและการท่องเที่ยวเชิงกีฬา  การบริหารจัดการน้ำ  การส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ และการอนุรักษ์และพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาไทยด้านการทอผ้าไหม เป็นต้น ซึ่งมุ่งหวังที่จะเชื่อมโยงจุดเด่นในแต่พื้นที่ เพิ่มเติมจุดแข็งของสินค้าและการบริการด้วยนวตกรรมและการวิจัยและพัฒนา นำไปสู่การสร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในกลุ่มจังหวัดดังกล่าว

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2561  ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารอเนกคุณาคาร มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ด้วย และก่อนหน้านั้น นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครชัยบุรินทร์: นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์)  เพื่อร่วมประชุมหารือกับหัวหน้าส่วนราชการ และเยี่ยมชมหมู่บ้านท่องเที่ยววิถีไทย สงวนนอก และสนามบินบุรีรัมย์

นายกรัฐมนตรีมีกำหนดปฏิบัติภารกิจต่างๆ  ดังนี้  วันจันทร์ที่ 7 พฤษภาคม 2561 ช่วงเช้า เวลา 09.00 น.  นายกรัฐมนตรีจะตรวจเยี่ยมชมจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ซึ่งเป็นด่านผ่านแดนถาวรเพื่อการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว  เวลา 11.00 น. เยี่ยมชมหมู่บ้านทอผ้าไหมยกทองโบราณบ้านท่าสว่าง  ซึ่งยังคงมีการอนุรักษ์ศิลปะการทอผ้าไหมชั้นสูง และได้รับเลือกให้เป็นผู้ผลิตผ้าไหมที่ระลึกแก่ผู้นำต่างประเทศที่เข้าร่วมการประชุมเอเปค  ครั้งที่ไทยเป็นเจ้าภาพปี 2003 ด้วย  ช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางต่อไปยัง จ. บุรีรัมย์  เวลา 15.00 น.  โดยประมาณ นายกรัฐมนตรีจะพบปะกับประชาชน ณ สนามช้างอารีน่า และตรวจเยี่ยมความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก  สนามที่ 15 รายการ  PTT Thailand Grand Prix  ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต  ช่วงค่ำ นายกรัฐมนตรีและคณะจะเยี่ยมชมถนนคนเดินเซาะกราว (Sroew Ground Walking Street) ซึ่งเป็นถนนสายวัฒนธรรมที่ได้รับรางวัลการบริหารจัดการชุมชนและสิ่งแวดล้อม

วันอังคารที่ 8 พฤษภาคม 2561 เวลา 08.30 น. นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครชัยบุรินทร์: นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์) ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคารอเนกคุณาคาร มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ และ เวลา 10.30 น. นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 3/2561 ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมฯ นายกรัฐมนตรี และคณะ จะเดินทางไปเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยววิถีไทย (Homestay) บ้านสนวนนอก ซึ่งเป็นหมู่บ้านชุมชนโบราณที่ดำรงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ตามแบบวิถีชุมชนเขมร และมีการจัดการด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของบุรีรัมย์ และเดินทางไปตรวจเยี่ยมท่าอากาศยานบุรีรัมย์ ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพมหานครในช่วงเย็นวันดังกล่าว

อนึ่ง การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ และการตรวจราชการ เป็นการบริหารงานแนวประชารัฐ เพื่อให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เข้าใจสภาพแวดล้อม ภูมิประเทศ และร่วมประชุมรับฟังความเห็นจากหน่วยปฏิบัติราชการในท้องถิ่น  ภาคเอกชน ผู้นำท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ นำไปสู่การพัฒนาภารกิจและมาตรการต่างๆ ให้ตรงต่อความต้องการของประชาชนแต่ละพื้นที่อย่างแท้จริง

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 31 มีนาคม 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...