ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
ไม่มีทำลายเอกสารจัดซื้อโควิดทิ้ง! นายกอบต.ปาฝา ร้อยเอ็ด ยันโปร่งใส 'ไร้ทุจริต'
30 มิ.ย. 2563

"...เดิมที่ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด ผมเคยสั่งการด้วยวาจาระหว่างการประชุมผู้บริหาร ให้ไปเตรียมพร้อมในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือมาใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดจริง แต่เมื่อเกิดกรณีข่าวภาพหลุดไลน์กลุ่มนายก อบต.ในจังหวัดร้อยเอ็ด เสนอขายชุดฆ่าเชื้อโควิด พร้อมเรียกเงินทอน 30% ทางอบต.เราก็เลยตัดสินใจไม่ซื้อวัสดุอุปกรณ์อะไรมาใช้แม้แต่รายการเดียว..."

สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานไปแล้วว่า ในรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการใช้จ่ายเงินงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อ.ป.ท.) ในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือโควิด 19 ของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ท.) ที่นำเสนอให้คณะกรรมการอำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) พิจารณาผลในการประชุมเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา

มีข้อมูลเกี่ยวกับการสั่งยกเลิกการจัดซื้อพัสดุบางรายการ ของหน่วยงานรัฐ จำนวน 5 แห่ง  ภายหลังจากเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบด้วย  โดย 1 ใน 5 หน่วยงานที่สั่งยกเลิกการจัดซื้อพัสดุบางรายการดังกล่าว มีกรณีองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปาฝา จังหวัดร้อยเอ็ด ยกเลิกการจัดซื้อเครื่องวัดอุณหภูมิแบบอินฟราเรด จำนวน 14 เครื่อง และวัสดุ ใน ทางวิทยาศาสตร์ และทางการแพทย์ เป็นเงินกว่า 380,000 บาท รวมอยู่ด้วย

ขณะที่ การยกเลิก ของ อบต. ปาฝา จังหวัดร้อยเอ็ด นั้น เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ตรวจสอบพบว่า ผู้บริหารอบต.เป็นผู้สั่งยกเลิกด้วยวาจา และมีการทำลายเอกสารการจัดซื้อ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2563 ที่ผ่านมา สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นายประเทือง รักความซื่อ นายก อบต.ปาฝา อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้

นายประเทือง ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ยืนยันว่า อบต.ปาฝา อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด ไม่ได้มีการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์มาใช้ในการป้องกันแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด จึงไม่มีการทำลายเอกสารทิ้ง

"เดิมที่ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด ผมเคยสั่งการด้วยวาจาระหว่างการประชุมผู้บริหาร ให้ไปเตรียมพร้อมในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือมาใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดจริง แต่เมื่อเกิดกรณีข่าวภาพหลุดไลน์กลุ่มนายก อบต.ในจังหวัดร้อยเอ็ด เสนอขายชุดฆ่าเชื้อโควิด พร้อมเรียกเงินทอน 30% ทางอบต.เราก็เลยตัดสินใจไม่ซื้อวัสดุอุปกรณ์อะไรมาใช้แม้แต่รายการเดียว"

เมื่อถามว่า มีการสั่งยกเลิกและทำลายเอกสารจัดซื้อทิ้งหรือไม่ นายประเทือง ยืนยันว่า  "ไม่มีการทำลายเอกสารอะไร เพราะเราไม่ได้มีการจัดซื้อสินค้าอะไรมาใช้งาน "

 

เมื่อถามย้ำว่า แต่มีข้อมูลว่าในการสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า ผู้บริหารอบต.เป็นผู้สั่งยกเลิกด้วยวาจา และมีการทำลายเอกสารการจัดซื้อ 

นายประเทือง ยืนยันว่า "ไม่มี ไม่มีการจัดซื้อไม่มีการทำลายเอกสารอะไรทั้งนั้น"

"ปัญหาเรื่องการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์โควิดของ อบต.ปาฝา มันเป็นเรื่องของคนบางกลุ่ม ในสำนักงานนี้แหละ ที่ไม่พอใจในการทำงานของผม ต้องการจะกลั่นแกล้งใส่ร้าย ให้ผมเสียหาย แต่ทำอะไรผมไม่ได้หรอก เพราะทุกคนรู้ว่าผมทำงานเป็นอย่างไร"

ส่วนข้อเท็จจริงกรณีข่าวภาพหลุดไลน์กลุ่มนายก อบต.ในจังหวัดร้อยเอ็ด เสนอขายชุดฆ่าเชื้อโควิด พร้อมเรียกเงินทอน 30% นั้น

นายประเทือง กล่าวว่า "เรื่องนี้ผมยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย ผมแค่ไปเห็นข้อความแล้ว ก็จิ้มต่อไปแค่นั้น ไม่ได้ไปรู้ไปเกี่ยวข้องอะไรเลย ทุกวันนี้ แต่แคป รูปอะไรยังทำไม่เป็นเลย"

เมื่อถามว่า ถ้า อบต.ปาฝา ไม่จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์มาใช้ แล้วมีแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาโควิดในพื้นที่อย่างไร?

นายประเทือง  นายก อบต.ปาฝา ชี้แจงว่า  "ในการป้องกันแก้ไขปัญหาโควิดที่ผ่านมานั้น อบต.เราใช้วิธีการทำเรื่องไปถึง อบจ. และ อำเภอ เพื่อขอสนับสนุนเครื่องมือเครื่องมือต่างๆ มาใช้งาน เราขอไป 3 รอบ แต่ของมาใช้งาน ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร"

เมื่อถามว่า ได้ชี้แจงข้อมูลให้กับหน่วยงานตรวจสอบหรือยัง  นายประเทือง  นายก อบต.ปาฝา กล่าวว่า "สตง. (สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน),  ป.ป.ช. (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ป.ป.ท.(สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ)  เข้ามาตรวจสอบหมดแล้ว ผมก็ยืนยันข้อมูลไป ว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเรื่องอะไรกับเรื่องที่ไม่ดีด้วย มีคนจ้องจะเล่นงานใส่ร้าย ทำให้เสียชื่อเสียง"

"ผมทำงานด้วยความสุจริต โปร่งใส ไม่งั้นผมอยู่มาไม่ได้จนถึงวันนี้หรอก" 

Cr: www.isranews.org

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...