นายจรินทร์ จักกะพาก อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวว่า มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่ง ได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนที่เจ็บป่วยซึ่งเป็นผู้ยากไร้ ไร้ที่พึ่ง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้   โดยช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลของรัฐ แต่ถูกหน่วยตรวจสอบทักท้วงว่าไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่

            กระทรวงมหาดไทย โดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและเล็งเห็น ถึงความสำคัญของการช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ในท้องถิ่น จึงได้ออกระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่าย  ในการสงเคราะห์ผู้ป่วยยากไร้ขององค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2560 เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น   ถือปฏิบัติ โดยระเบียบดังกล่าวได้ประกาศราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560 เป็นต้นไป โดยมีหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติ ว่า ผู้ป่วยยากไร้ต้องมีสัญชาติไทย มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดที่ขอรับการสงเคราะห์ จะต้องรักษาในสถานพยาบาลของรัฐ และต้องเป็นผู้ที่          ได้รับการช่วยเหลือจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เป็นลำดับแรก ถ้าได้รับไม่เพียงพอหรือ  ไม่ได้รับการช่วยเหลือ ก็ให้ผู้ป่วยยากไร้ติดต่อกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดโดยตรง หรือติดต่อผ่านเทศบาลหรือองค์การบริหารส่วนตำบลที่มีภูมิลำเนาอยู่ ในกรณีที่ผู้ป่วยยากไร้ได้รับการสงเคราะห์จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แล้ว แต่ได้รับการสงเคราะห์ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย เช่น มีค่าใช้จ่ายในการ         เดินทางเข้ารับการรักษาพยาบาล จำนวน 4,000 บาท แต่ได้รับการสงเคราะห์เพียง 2,0000บาท หรือไม่ได้รับการสงเคราะห์ เนื่องจากถูกจำกัดด้วยงบประมาณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดก็สามารถสงเคราะห์เพิ่มเติมได้ตามที่จ่ายจริงไม่เกินครั้งละ 2,000 บาท ต่อคน และไม่เกินสามครั้งต่อปีงบประมาณ ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ให้ขอความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นกรณีไป เช่น ผู้ป่วยโรคไตซึ่งต้องได้รับการฟอกไตเป็นประจำ