จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดย พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอ สั่งการให้คณะพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีขบวนการลักลอบนำเข้าซากสุกรแช่แข็ง 161 ตู้ ภายในราชอาณาจักรไทย ซึ่งนำโดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าคณะทำงาน และ ร.ต.อ.ชาญณรงค์ ทับสาร เลขานุการคณะพนักงานสอบสวน พร้อมคณะ เร่งสืบสวนสอบสวนหาผู้กระทำความผิดหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประสานความร่วมมือเรื่องรายละเอียดคดี เอกสารพยานหลักฐานกับกรมปศุสัตว์ และกรมศุลกากร อย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม กล่าวว่า ทางคณะพนักงานสอบสวนได้มีการประชุมหารือร่วมกัน และได้มีมติรับทราบทั่วกันว่า ภายในห้วงสัปดาห์ บริษัทสายเรือที่รับหน้าที่นำเข้าสินค้า (ซากสุกรแช่แข็ง) ทั้ง 16 แห่งที่เหลือ จะมีการทยอยตบเท้าเข้าให้ปากคำในฐานะพยาน เพื่อชี้แจงประเด็นเกี่ยวกับกระบวนการสั่งซื้อสินค้า วิธีการรับจ้างนำเข้าสินค้า รายนามบริษัทผู้ว่าจ้างและว่าจ้างอย่างไร ห้วงระยะเวลาการนำเข้าสินค้า จำนวนเที่ยว จำนวนตู้คอนเทเนอร์ รวมถึงมีการประสานติดต่อระหว่างกันอย่างไร เป็นต้น

เพื่อที่เราจะไปจำแนกว่าบริษัทใดตามคำให้การของสายเรือมีการนำเข้าตู้คอนเทเนอร์กี่ตู้ จากทั้งหมด 161 ตู้ อีกทั้งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้มีการสอบปากคำบริษัทสายเรือไปแล้ว 1 แห่ง คือ บริษัท หยางหมิง จำกัด ซึ่งได้ให้ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องและเป็นประโยชน์ต่อสำนวนคดี เช่น บริษัทสินค้านำเข้ารายใดทำหน้าที่ว่าจ้างให้ บริษัท หยางหมิง จำกัด ขนสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร และให้มาส่งสินค้าที่ไหน เนื่องจากบริษัทสินค้านำเข้า ตามการรวบรวมพยานหลักฐานพบว่ามีทั้งหมด 10 ราย ที่เข้ามามีบทบาทว่าจ้างแต่ละสายเรือให้ขนสินค้า ซึ่งเราก็จะได้รายละเอียดเกี่ยวกับลักษณะของการว่าจ้าง ยกตัวอย่าง บริษัทนำเข้า A (นามสมมุติ) ว่าจ้างสายเรือกี่แห่งให้นำเข้าสินค้า และให้นำเข้าเมื่อวันที่/เวลาใด

พ.ต.ต.ณฐพล เผยอีกว่า เมื่อดำเนินการสอบปากคำบริษัทสายเรือทั้ง 17 แห่งครบแล้ว และได้รับพยานหลักฐาน คำให้การเสร็จสิ้น จากนั้นเราจึงจะออกหมายเรียกพยานแก่ชิปปิ้งเอกชนทั้ง 11 แห่ง เพื่อสอบปากคำในประเด็นที่ยังขาดเหลือเพิ่มเติม ส่วนขั้นตอนถัดไป คณะพนักงานสอบสวนจะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้ง เพื่อพิจารณาว่ามีบุคคลหรือนิติบุคคลใด เป็นผู้กระทำความผิดจากขบวนการลักลอบนำเข้าซากสุกรแช่เเข็งเหล่านี้

พ.ต.ต.ณฐพล เผยต่อว่า ด้านกรมศุลกากรให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ได้มอบพยานหลักฐาน เอกสารให้ดีเอสไอทั้งหมด เราจึงทราบและขยายผลพบว่าขบวนการลักลอบนำเข้าซากสุกรแช่แข็ง 161 ตู้ มีบริษัทนำเข้า (นิติบุคคลสัญชาติไทย) จำนวน 10 ราย ที่เข้ามามีส่วนในการว่าจ้างให้บริษัทสายเรือทั้ง 17 แห่งนำเข้าสินค้า นอกจากนี้ เรายังไปตรวจสอบฐานข้อมูลของบริษัทนำเข้าทั้ง 10 ราย จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อดูว่าที่ผ่านมามีการดำเนินธุรกิจอย่างไร ขั้นตอนการรับ-ส่งสินค้าเป็นอย่างไร ทั้งยังตรวจสอบข้อมูลในส่วนอื่นๆ ร่วมด้วย เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อการนำมาประกอบการสอบสวนมากที่สุด

ส่วนกรณีที่พบว่าอาจมีเจ้าหน้าที่ศุลกากรเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในขบวนการหมูเถื่อนผ่านขั้นตอนของการคีย์ข้อมูลลงระบบนั้น พ.ต.ต.ณฐพล เผยว่า เบื้องต้นเราจะเรียกผู้อำนวยการที่ทำหน้าที่ควบคุมระบบการคีย์ข้อมูลมาสอบปากคำในฐานะพยานภายหลังจากที่สอบปากคำสายเรือทั้ง 17 แห่งเสร็จสิ้นก่อน เพื่อให้ได้ข้อมูลหลายๆ ส่วน ก่อนนำมาใช้สอบถามทางฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐว่า สรุปแล้วใครเป็นคนคีย์ข้อมูลสินค้าบันทึกลงระบบ ทั้งนี้ ตามหนังสือที่กรมศุลกากรได้ส่งมายังดีเอสไอ เพื่อเตรียมประชุมร่วมกันพิจารณาวาระการทำลายของกลางในคดีนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอการนัดหมายวันเวลา เพราะจะต้องมีทั้งกรมปศุสัตว์ ซึ่งเป็นเจ้าภาพหลักในการทำลายของกลาง กรมศุลกากร รวมถึงดีเอสไอเข้าร่วม เพื่อหารือให้เป็นมติรับทราบร่วมกันถึงสถานที่ (จำนวนไร่ หรือตารางวา ตารางเมตร) วันที่ เวลา กระบวนการขนย้ายของกลางทั้ง 161 ตู้ ขั้นตอนขุดดินสำหรับฝังกลบ ฯลฯ ซึ่งจะเกิดขึ้นบริเวณภายในพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และที่ยืนยันได้ตอนนี้คือ สถานที่สำหรับฝังกลบทำลายของกลาง เป็นของกรมปศุสัตว์โดยตรง