ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
ทส.ตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัด 'ภาคเหนือ-ปริมณฑล' แก้ 'PM2.5
23 พ.ย. 2566

“พัชรวาท” เผย ถก คกก.จัดการมลพิษทางอากาศ ลดพื้นที่เผา เล็งให้สิทธิประโยชน์เอกชนที่ร่วมหนุน แก้ PM2.5 ตั้ง “ปลัดทส.” นั่ง ปธ.อนุฯ ตั้ง ศูนย์ระดับจว. เหนือ-ปริมณฑล ดึงแม่ทัพภาค 3 นั่ง ผอ.ศูนย์ดับไฟป่า

ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ เพื่อความยั่งยืน ครั้งที่ 1/2566  ว่า ที่ประชุมได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อลดพื้นที่การเผาไหม้ซ้ำซาก ในพื้นที่ 10 ป่าอนุรักษ์ 10 ป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่การเกษตรเผาไหม้ และการควบคุมฝุ่นละอองในเขตเมืองได้แก่ การพิจารณาสิทธิประโยชน์หรือแรงจูงใจให้ภาคเอกชนที่ร่วมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาไฟป่าและฝุ่น PM2.5 

นอกจากนั้น ยังมีการกำหนดเงื่อนไขการอนุญาตการเผาและการบริหารจัดการการเผา การเร่งรัดการนำระบบการรับรองผลผลิตทางการเกษตรแบบไม่เผามาใช้กับการปลูกอ้อย ข้าวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มาตรการไม่รับอ้อยไฟไหม้เข้าหีบ การพิจารณาเพิ่มเงื่อนไขเรื่องการเผาในพื้นที่ป่าและพื้นที่เกษตรในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า และการผลิตและจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้เป็นไปตามมาตรฐานยูโร 5 และรายงานทุก 30 วัน 
 
ขณะเดียวกันได้เห็นชอบคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการอำนวยการเพื่อการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศ ที่มีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน เพื่อเป็นกลไกขับเคลื่อนการดำเนินงานภายใต้มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ปี 2567 คำสั่งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการระดับจังหวัดเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ และ 5 จังหวัดปริมณฑล โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน เพื่อเป็นกลไกการแก้ไขปัญหาและบังคับใช้กฎหมายเชิงพื้นที่ เฝ้าระวัง แจ้งเตือน สร้างการรับรู้ และเผยแพร่ข้อมูลในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ และคำสั่งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการดับไฟป่า โดยมีแม่ทัพภาค 3 เป็นผู้อำนวยการศูนย์ เพื่อบูรณาการการดับไฟป่า
หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...