ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คอลัมนิสต์ประจำอปท.นิวส์ ย้อนกลับ
ลูกมังกร(ยุคใหม่)ย้ายถิ่น
27 ก.พ. 2567

          คนจีนสมัยก่อนอพยพออกจากแผ่นดินใหญ่เพราะหนีความอดอยากยากจน  หนีสงครามกลางเมือง  ลงเรือสำเภาเสี่ยงตายไปแสวงหาชีวิตใหม่กลายเป็นชาวจีนโพ้นทะเล  ทำมาหากินอยู่ต่างประเทศ  ส่งเงินกลับไปช่วยญาติพี่น้องที่เมืองจีน

          ต่อมาเมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นสังคมนิยมโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน  ผู้มีอันจะกิน  ชนชั้นกลาง ผู้มีความรู้  ผู้เห็นต่าง  ก็ต้องเผ่นออกนอกประเทศไปตั้งต้นชีวิตใหม่ในต่างแดน 

          เป็นสังคมนิยมได้ 7 ทศวรรษ พรรคคอมมิวนิสต์จีนสามารถแก้ปัญหาความยากจนได้  ยกระดับคุณภาพชีวิตคนทั้งประเทศไม่มีคำว่า “อดตาย”อย่างในอดีต  แม้ที่ดินทุกตารางนิ้วยังเป็นของรัฐ  แต่ประชาชนก็สามารถเช่า สามารถครอบครอง  เลิกระบบนารวม  ทำการเกษตรเป็นของตนเองได้  ทำมากได้มาก  ทำน้อยได้น้อย  ปลูกบ้านเรือนได้  ลงทุนค้าขายได้

          แม้จะเป็นสังคมนิยมแต่ระบบเศรษฐกิจการค้า การเงินของจีนได้ปรับตัวรับตลาดโลก  จนจีนก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลกอันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกาได้อย่างรวดเร็ว  จีนกลายเป็นโรงงานผลิตสินค้าส่งออกไปขายทั่วโลก  จีนพัฒนาตัวเองจากการรับจ้างผลิต  นักลอกเลียนแบบ กลายเป็นผู้สร้างนวัตกรรมใหม่ๆโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร  ระบบการขนส่งด้วยรถไฟฟ้าความเร็วสูง  จนวันนี้จีนคือผู้นำด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า(EV) ที่สหรัฐอเมริกาและกลุ่มยุโรปกลัวจนต้องรวมหัวกันขัดขวางการบุกตลาดของEVจีน

          ย้อนหลังไปแค่ 4 ทศวรรษ พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้พลิกโฉมประเทศ  จากด้อยพัฒนาเป็นผู้นำแห่งการพัฒนา  จากที่เคยรับความช่วยเหลือจากนอกประเทศ  เป็นผู้ยื่นความช่วยเหลือและแนวทางพัฒนาใหม่แก่นานาประเทศ  ดังเช่น ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ( Belt and Road Initiative : BRI) เพื่อพัฒนาเส้นทางคมนาคมขนส่งเชื่อมภูมิภาคและเชื่อมโลกบนหลักการต่างได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน

         ช่วงเวลาดังกล่าวภาพของคนจีนที่ชาติตะวันตกเคยเหยียดว่า “ผิวเหลืองขี้โรค” หรือที่เคยมองว่าโบราณหลังเขา  ได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเช่นกันตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น  การใช้ชีวิตที่ทันสมัยไล่ทันเทคโนโลยี  การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่มีกำลังวังชาและกำลังซื้อ  รวมถึงการออกท่องเที่ยวต่างประเทศที่กลายเป็นที่ต้องการของนานาประเทศที่อาศัยรายได้จากนักท่องเที่ยว

        GDPที่ก้าวกระโดดของจีนถูกหยุดอย่างกระทันหันด้วยอุปสรรคที่มองไม่เห็นอย่างเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่บีบให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องใช้ยาแรงสกัดยับยั้งการแพร่ระบาดด้วยการล็อคดาวน์เมืองและประเทศอย่างยาวนาน 3 ปี(2020-2022) พร้อมนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์”ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ซึ่งปีแรกก็พอยอมรับกันด้วยความตกใจ  แต่พอนานวันเข้าธุรกิจการค้าพัง  การใช้ชีวิตไม่ปกติสุข  คนจีนก็เริ่มอึดอัดจนถึงขั้นออกมาต่อต้านกฎระเบียบของรัฐบาล

          แม้ต่อมาจะมีการผ่อนคลายมาตรการและเปิดประเทศในที่สุด  แต่หลายคนมองว่ารัฐบาลทำช้าเกินไปจนระบบเศรษฐกิจถดถอยตกต่ำลงไปมาก  ประกอบกับในช่วงล็อคดาวน์รัฐบาลได้ทำการจัดระเบียบสังคมใหม่  ล้างระบบเรียนพิเศษ  เลิกสถาบันติวเตอร์  เข้าแทรกแซงกิจการด้านเทคโนโลยีที่ทำตัวผูกขาดธุรกิจ  เข้าตรวจสอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เข้าข่ายปั่นฟองสบู่  ฯลฯ ซึ่งด้านหนึ่งสร้างความพอใจแก่สังคม  แต่อีกด้านกลายเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้สาหัสยิ่งขึ้น

          แม้รัฐบาลจีนจะพยายามแสดงตัวเลขดีๆและผลงานด้านการพัฒนาประเทศในรอบปีที่ผ่านมา  แต่ภาพสร้างก็ไม่อาจบดบังภาพจริงและข้อเท็จจริงที่เผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดียที่หน่วยงานรัฐสกัดได้ไม่หมด  นั่นคือเศรษฐกิจที่ไม่เฟื่องฟูเหมือนเมื่อก่อน  ค่าครองชีพในเมืองที่ยังสูงแต่รายได้ลดน้อยลง  อัตราการว่างงานสูงโดยเฉพาะเด็กจบใหม่ซึ่งสร้างแรงกดดันทางสังคม

         อีกมุมหนึ่งที่ไม่มีข้อมูลเปิดเผยเป็นทางการแต่ปรากฏการณ์พิสูจน์ให้เห็นว่า  สถานการณ์ในประเทศที่หากินยากขึ้นประกอบกับการจัดระเบียบสังคมของรัฐบาลจีน  ทำให้ทุนจีนสีเทาหนีออกไปหากินนอกประเทศที่อยู่ใกล้เคียง ทั้งเมียนมา  ลาว กัมพูชา และไทย  โดยช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้แสดงฤทธิ์เดชไว้พอสมควร  ทั้งผับเถื่อน บ่อนการพนันชายแดน  แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างความปั่นป่วนกลับไปถึงแผ่นดินใหญ่และไทย  จนรัฐบาลจีนต้องร่วมมือกับหลายประเทศเข้าทลายแก๊งดังกล่าวเมื่อเร็วๆนี้แต่ก็ยังไม่สิ้นซาก 

          บริษัทที่ปรึกษาด้านการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานรายหนึ่งเปิดว่าในปี 2023 มี “เศรษฐีจีน”ที่อยากจะย้ายถิ่นฐานพร้อมเงินลงทุนออกจากแผ่นดินใหญ่มากกว่า 1 หมื่นราย  ไปอยู่สหรัฐอเมริกาหรือยุโรป  เหตุผลก็เพราะต้องการหลีกหนีความเข้มงวดของรัฐบาลจีนที่เริ่มเข้ามาตรวจสอบความมั่งคั่งของการทำธุรกิจภาคเอกชนมากขึ้น

          นอกจากกลุ่มเศรษฐีแล้วยังมีคนชั้นกลางชาวจีนอีกจำนวนไม่น้อยที่หาทางย้ายถิ่นไปยังแดนเสรีที่ไม่ใช่เพียงการแสวงหาโอกาสทางเศรษฐกิจที่ดีกว่า  แต่ยังต้องการสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก  การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ซึ่งทำไม่ได้ในแผ่นดินใหญ่   

          มีข้อมูลที่น่าสนใจว่าในแถบอาเซียนนอกจาก “สิงคโปร์”ที่ชาวจีนเคยสนใจอยากจะย้ายไปอยู่แล้ว  ปัจจุบัน “ประเทศไทย” คือจุดหมายยอดนิยมของหนุ่มสาวจีน  อาจจะเพราะความเป็นเมืองทันสมัย  มีความเป็นอิสระ ใช้ชีวิตง่าย และมีความกลมกลืน

          นักวิชาการท่านหนึ่งให้ข้อมูลว่าช่วง 20 ปีที่ผ่านมาเด็กจีนที่เข้ามาเรียนเมืองไทยแล้วไม่ยอมกลับบ้านมีเป็นจำนวนมาก  ส่วนหนึ่งที่มีฐานะและหัวดีเมื่อเรียนจบปริญญาตรีแล้ว  ต้องการเรียนต่อปริญญาโท และปริญญาเอกโดยใช้สิทธิเรียนอย่างเต็มที่  ในระหว่างนั้นก็ทำงานไปด้วย  บางคนจบแล้วแต่งงานกับคนไทยปักหลักสร้างครอบครัวอยู่ไทยเลย

          ครอบครัวจีนที่ส่งลูกมาเรียนในไทยหลายครอบครัวลงทุนซื้อคอนโดมิเนียนให้อยู่  เพราะราคาถูกกว่าที่จีนมาก  เป็นบ้านหลังที่สองมาพักผ่อนได้ช่วงเทศกาลต่างๆ  หรือสุดท้ายขายออกก็ยังได้กำไร

          อีกเหตุผลที่เลือกเมืองไทยเพราะสังคมไทยต้อนรับคนจีนอยู่แล้ว  มีความใกล้ชิดทางเชื้อชาติ  ปลอดภัยกว่าหลายประเทศ  ค่าครองชีพต่ำ  ค่าการศึกษาไม่แพง  โอกาสทำการค้าการลงทุนสูงไม่แข่งขันรุนแรงเหมือนในจีน        

          นักวิชาการด้านอสังหาริมทรัพย์ท่านหนึ่งบอกว่า  การที่คนจีนสนใจย้ายถิ่นฐานมาไทยก็เพราะการซื้อห้องชุดในจีนมีเงื่อนไขมากและอยู่ได้แค่ 70 ปี  แต่ถ้ามาลงทุนในภาคตะวันออกหรือโครงการอีอีซีที่รัฐบาลต้องการดึงดูดทุนต่างประเทศโดยเฉพาะทุนจีน  กฎหมายเปิดโอกาสให้ซื้อห้องชุดได้ 100% เช่าที่ดินได้ 99 ปี  แถมได้สิทธิประโยชน์อีกมากมาย

          จึงอย่าแปลกใจหากอนาคตจะมีชุมชนจีนเข้าครองภาคตะวันออก

 

 

................................................................................................................................................................

หมายเหตุ : ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ อปท.นิวส์  ปีที่ 18 ฉบับที่ 423 วันที่ 1-15 มีนาคม พ.ศ.2567 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...