ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เศรษฐกิจชุมชน ย้อนกลับ
พช.ลำพูน ร่่วมต้อนรับนายกรัฐมนตรี ในโอกาสลงพื้นที่จังหวัดลำพูน
18 มี.ค. 2567
วันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2567 เวลา 14.00 น. : ที่ บ้านดอนหลวง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่จังหวัดลำพูน เพื่อติดตามการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาล พร้อมเผยแพร่ Soft Powerผ้าอัตลักษณ์พื้นถิ่นจังหวัดลำพูนให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย โดยมี นายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล นายโยธิน ประสงค์ความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นายบุญส่ง ไชยมณี หัวหน้าสำนักงานจังหวัดลำพูน นายประจักษ์จิตร สายนะที พัฒนาการจังหวัดลำพูน หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด/อำเภอ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนในพื้นที่จำนวนกว่า 3,000 คน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
ในการนี้ นายประจักษ์จิตร สายนะที พัฒนาการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นางนิตยา ดีสุวรรณ์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานสารสนเทศฯ นางสาวสมหมาย ประทุมเทพฯ ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์ฯ เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัด ประธานเครือข่าย OTOP ลำพูน คณะกรรมการเครือข่าย OTOP ร่วมจัดบูธแสดงและจำหน่ายผ้ายกดอกลำพูน และบูธ Soft Power ลำพูน จัดแสดงและจำหน่าย "ชุด Soft Power น้องงัวน้อยหละปูน" ได้ร่วมให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะฯ
โอกาสนี้ จังหวัดลำพูนโดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดลำพูน และเครือข่าย OTOP ลำพูน มอบเสื้อคลุมลาย Soft Power ลำพูน ชื่อว่า “น้องขาวลำพูน หรือ น้องงัวน้อยหละปูน” โดยนำเอาโคขาวลำพูน โคพื้นถิ่นมาเป็นแนวคิดสำคัญในการออกแบบ ซึ่งการออกแบบกำหนดให้เป็นโคขาวลำพูนในวัยเด็ก ที่มีจะมีคาเรคเตอร์ที่น่ารัก ช่างพูด ช่างเจรจา เป็นที่รักสำหรับผู้พบเห็นในอิริยาบถต่างๆ เช่น น้องงัวน้อยหละปูนกับสะพานขาวทาชมภู น้องงัวน้อยหละปูนถือโคม น้องงัวน้อยหละปูนเตะฟุตบอล น้องงัวน้อยหล่ะปูนถือลำไย เป็นต้น
เสื้อคลุมดังกล่าวตัดเย็บโดยกลุ่มเย็บปักถักร้อยบ้านแจ้ซ้อน OTOP อำเภอบ้านธิ เพ้นท์สีโดย นางสาววาสนา โล่ตระกูล กลุ่มปายคราฟ OTOP อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน นอกจากนี้เครือข่าย OTOP จังหวัดลำพูนได้ออกแบบและตัดเย็บชุด Soft Power น้องงัวน้อยหละปูน ออกมาให้เลือกแล้วหลายรูปแบบ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 190 บาทขึ้นไป ผู้สนใจสามารถสอบถามและสั่งจองได้ที่ เครือข่าย OTOP จังหวัดลำพูน โทรศัพท์หมายเลข 08 – 6916 - 8504
โดยนายกรัฐมนตรี และคณะฯ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล จำนวน 7 บูธ ประกอบด้วย 1.การนำเสนอผลการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และ PM 2.5 ของจังหวัดลำพูน 2.การนำเสนอผลการบริหารจัดการขยะจังหวัดลำพูน 3.การนำเสนอโครงการผ้าลำพูน 4.การนำเสนอผลการดำเนินโครงการจัดที่ดินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) จังหวัดลำพูน 5.การนำเสนอผลการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลทางการเกษตรตกต่ำ(ลำไย,มะม่วง) จังหวัดลำพูน 6.การนำเสนอผลการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบจังหวัดลำพูน และ 7.การนำเสนอผลการแก้ไขปัญหายาเสพติดและการจัดระเบียบสังคมจังหวัดลำพูน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ผมเลือกสวมเสื้อผ้าฝ้ายทอมือ สีธรรมชาติ (สีตุ่น) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของชุมชนบ้านดอนหลวง หมู่ 7 ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน มาลงพื้นที่เพื่อชมผลิตภัณฑ์ชุมชน และมองหาโอกาสให้พี่น้องประชาชน จังหวัดลำพูน ซึ่งผมได้ยินถึงความตั้งใจว่า กว่าจะได้ผ้าผืนนี้ ต้องผ่านกระบวนการทอผ้าด้วยวิธีพื้นเมืองถึง 12 ขั้นตอน นี่คือภูมิปัญญาและความทุ่มเทของพี่น้องประชาชนที่ควรค่าแก่การสนับสนุน
ลำพูนมีศักยภาพสูง เป็นจังหวัดสะอาดที่ได้รางวัล 5 ปีซ้อน เรื่องของรายได้ต่อหัวหรือ GPP ที่จังหวัดลำพูนสูงที่สุด เรียกว่าสูงที่สุดในจังหวัดภาคเหนือ 17 จังหวัด ไม่ได้ได้มาด้วยความบังเอิญ ที่นี่เข้มแข็งทั้งวัฒนธรรมและงานฝีมือ ซึ่งก็คือผ้าฝ้ายที่เป็นที่ยอมรับในระดับประเทศ และพืชผลทางการเกษตรที่มีมูลค่าสูง ลำพูน คือ ลำไย ไม่เหนือความเป็นจริงครับ เพราะลำไยเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของจังหวัด ถ้าฝนดี มีผลิตผลดี และมีการตลาดที่ชัดเจน ผมเชื่อว่ารายได้ของพี่น้องก็จะสูงขึ้น ซึ่งทุกวันนี้จีนนำเข้าลำไยไทยเป็นอันดับหนึ่งเนื่องจากขนาดผลใหญ่ เนื้อหนา รสชาติหวานฉ่ำ ผมจึงฝากกระทรวงพาณิชย์ให้เปิดตลาดที่ต่างประเทศเพิ่มด้วย การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ผมคิดว่า จังหวัดลำพูนสามารถทำได้ดี 17 จังหวัดภาคเหนือนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดทำงานด้วยกันอย่างเข้มแข็งทุกคน ผมจึงเชื่อว่าหาก เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พะเยา เชียงราย และจังหวัดอื่น ๆ ในภาคเหนือรวมตัวกันแล้ว ทุกจังหวัดจะเป็นเมืองหลักได้
หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...