ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
เกษตรนำไทย ย้อนกลับ
จัดสรรงบกลาง ปี 61 อัดฉีดภาคเกษตร 24,993 ลบ.
28 พ.ค. 2561

ไฟเขียว พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปี 61 กระทรวงเกษตรฯ ได้รับจัดสรร 24,933 ล้านบาท พร้อมลุยแผนงานยุทธศาสตร์ปฏิรูปภาคเกษตร บวกแผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิต สอดคล้องแนวทางไทยนิยม ยั่งยืน ด้าน สศก. วิเคราะห์ ช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจ 63,599 ล้านบาท เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 35,304 ล้านบาท/ปี

นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่าจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้เห็นชอบพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม ประจำปีงบประมาณ 2561 เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนไทยนิยม ยั่งยืน ซึ่งในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้น 24,993 ล้านบาท ประกอบด้วย 2 แผนงานคือ

1) แผนงานยุทธศาสตร์ปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นเจ้าภาพ วงเงินรวมประมาณ 24,300 ล้านบาท แบ่งเป็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 23,796 ล้านบาท (17 โครงการ) และกระทรวงอุตสาหกรรม 498 ล้านบาท (2 โครงการ) และกระทรวงพาณิชย์ 6 ล้านบาท (1 โครงการ) และ 2) แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิต มี กระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพ โดยเป็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 693 ล้านบาท (2 โครงการ)

ในการนี้ สศก. ได้วิเคราะห์ผลกระทบของโครงการไทยนิยม ยั่งยืนต่อเศรษฐกิจภาพรวม และประโยชน์ที่เกิดขึ้นเกษตรกร พบว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจภาพรวม งบประมาณที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับทั้งสิ้น 24,993 ล้านบาท จะก่อให้เกิดการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่า 63,599 ล้านบาท (2.54 เท่าของงบประมาณ) โดยแบ่งออกเป็นด้านการผลิต 47,563 ล้านบาท จากค่าจัดซื้อจัดหาวัสดุอุปกรณ์ในโครงการลงทุนก่อสร้าง ส่งผลให้เกิดการผลิตสินค้าวัสดุที่เกี่ยวเนื่องในระบบห่วงโซ่การผลิต และด้านรายได้ 16,035 ล้านบาท จากค่าจ้างแรงงานในโครงการต่างๆ ซึ่งเป็นรายได้แรงงานที่จะถูกนำไปจับจ่ายใช้สอยเพื่อการบริโภคของครัวเรือนและกระจายไปเป็นรายได้ของร้านค้ารวมถึงธุรกิจในชุมชนที่ต่อเนื่อง

ผลกระทบต่อเกษตรกร วัดจากผลได้ที่เกษตรกรได้รับจากกิจกรรมโครงการต่าง ๆ ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง และปลายทาง เช่น รายได้เกษตรกรที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนการผลิตที่ลดลง และโครงสร้างพื้นฐานที่ก่อสร้างเพิ่มขึ้นหรือพัฒนาให้ดีขึ้น โดยผลวิเคราะห์ พบว่า เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้น 35,304 ล้านบาท/ปี โดยเพิ่มขึ้นจากกิจกรรมการพัฒนาแหล่งน้ำชลประทานในการเพิ่มพื้นที่ชลประทาน 2.12 ล้านไร่ คิดเป็น 10,288 ล้านบาท

กิจกรรมเพิ่มศักยภาพการผลิตและการพัฒนาทักษะอาชีพ 23,897 ล้านบาท กิจกรรมการลดต้นทุนการผลิตด้วยการสนับสนุนเมล็ดพืชและสัตว์พันธุ์ดี 874 ล้านบาท และกิจกรรมเสริมศักยภาพธุรกิจสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร 245 ล้านบาท นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตรได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้น จากกิจกรรมการสร้างฝายชะลอน้ำเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ 1,341 แห่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดความยั่งยืนในการทำการเกษตรในอนาคต ทั้งในพื้นที่นอกเขตชลประทาน และพื้นที่ ส.ป.ก.

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...