นางสุรางคณา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) สพธอ. หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า โครงการล่าสุดที่ทาง สพธอ.เข้าไปเซ็นเอ็มโอยูร่วมกับสมาคมเมืองตงกวน คือโปรโมตการค้าระหว่างประเทศของประเทศจีนในการจัดตั้ง “อีคอมเมิร์ซ ปาร์ค” ขึ้นในประเทศไทย โดย อีคอมเมิร์ซ พาร์ก จะเป็นเหมือนศูนย์บ่มเพาะบุคลากรที่จะเข้าไปดูว่า SMEs ขาดบุคลากรในส่วนไหน เพื่อให้มาฝึกภายในศูนย์ฯ และช่วยสร้างให้มีรายได้พิเศษ โดยเริ่มมีการเข้าไปพูดคุยกับทางมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) ไปบ้างแล้ว

“ที่เริ่มจาก มศว. เพราะว่าอยู่กลางเมืองอยู่ใกล้กับ สพธอ.มีคณะที่น่าสนใจอย่างการสื่อสารนวัตกรรม, มีศิลปกรรม, มีวิศวกรรม และมนุษย์ศาสตร์ โดยเฉพาะภาคอังกฤษและจีนที่คาดว่าจะสามารถสร้างบุคลากรได้กว่า 500 คนภายในสิ้นปีนี้”

นางสุรางคณา เปิดเผยอีกว่า อีคอมเมิร์ซ ปาร์ค คาดว่าจะเป็นรูปร่างขึ้นมาในช่วงปลายปีนี้ โดยที่ร่วมกับ มศว.จะเป็นโครงการต้นแบบที่จะใช้ขยายไปยังทุกภูมิภาคในประเทศไทย ภายใต้โครงสร้างที่ใกล้เคียงกันคือทาง สพธอ.เข้าไปร่วมลงทุน รวมถึงการนำความรู้จากสมาคมฯ ตงกวน มาร่วมด้วย

อย่างไรก็ตาม อีคอมเมิร์ซ ปาร์ค ถือเป็นโครงการใหม่ เพิ่มเติมจากก่อนหน้านี้ที่ สพธอ.เคยประกาศทำโครงการในระดับประเทศอย่างไซเบอร์ซิเคียวริตี พาร์ก (Cybersecurity Park), ดิจิทัลทัวริสซึม (Digital Tourism), ทุเรียน แพลตฟอร์ม (Durian Platform), ดิจิทัล คอนเทนต์ (Digital Content) และเนชันแนลดิจิทัล ไอดี (National Digital ID)

“เศรษฐกิจวันนี้มีอะไรที่กำลังเปลี่ยนและต้องเปลี่ยน อย่างข้อมูลตลาดอีคอมเมิร์ซที่กำลังเปลี่ยนแปลงไป เพราะทาง สพธอ.กำลังเตรียมรวบรวมรายได้การขายที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มดิจิทัลเข้ามาอยู่ภายในตลาดอีคอมเมิร์ซ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีหน้า นอกจากนี้ ตลาดอีคอมเมิร์ซ คาดว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นกว่าเดิมที่คาดการณ์ไว้ 2.55 ล้านล้านบาท เติบโต 10% จากปีก่อน จากหลายๆ ปัจจัยที่แม้ว่าสภาพรวมเศรษฐกิจระดับล่างหมือนจะไม่ดี แต่จริงๆ แล้ว ผู้บริโภคหันมาใช้จ่ายทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น” นางสุรางคณา กล่าว

ผู้อำนวยการ สพธอ.กล่าวด้วยว่า ปัจจุบัน สพธอ.ได้รับมอบหมายให้สนับสนุน 2 หน่วยงานใหม่ที่จะเกิดขึ้นตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ใหม่ คือ การตั้งไซเบอร์ซีเคียวริตี้เอเยนซี่ของประเทศ ตาม พ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์กับสำนักงานคณะกรรมการข้อมูลส่วนบุคคล ที่จะตั้งตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งทั้งคู่กำลังรอเข้ากระบวนการนิติบัญญัติ ซึ่งเป็น 2 เรื่องที่รัฐบาลผลักดันเต็มตัว ฉะนั้น กฎหมาย 2 ฉบับนี้ต้องผ่านในรัฐบาลนี้แน่นอน ถ้าไม่เสร็จจะทำให้ประเทศไทยเป็นสังคมดิจิทัลได้ยากมาก เพราะไม่มีหน่วยงานที่จะมาดูแลในเชิงบูรณาการ ทั้งในด้านข้อมูลส่วนบุคคล และภัยคุกคามทางอินเทอร์เน็ต