ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
พพ.เร่งพัฒนาองค์กรสู่ดิจิทัลรับยุค4.0
06 พ.ย. 2561

กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เริ่มปฏิบัติการเชื่อมโยงระบบฐานข้อมูลกระทรวงมหาดไทย พร้อมเปิดระบบบริการใหม่ให้ประชาชน ด้วยระบบดิจิทัล แทนการขอสำเนาเอกสาร บัตรประชาชน และทะเบียนบ้าน วางเป้าพัฒนาองค์กรดิจิทัลสอดรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0

 นายยงยุทธ จันทรโรทัย อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน  (พพ.)  เปิดเผยว่า ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนตามนโยบาย Thailand 4.0 ที่ได้ยกเลิกการใช้สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านสำหรับการติดต่อราชการ  พพ. ในฐานะหน่วยงานของภาครัฐที่ให้บริการภาคประชาชนในด้านการส่งเสริม และสนับสนุนโครงการการพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ได้ออกประกาศ “การยกเลิกการเรียกสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและ สำเนาทะเบียนบ้าน” มีผลแล้วตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งพพ.มีความพร้อมที่จะให้บริการกับทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาไปสู่การเป็นองค์กรรัฐในรัฐบาลดิจิทัล ( Digital-e-government ) 

“ เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่ผ่านมาได้มีการเชื่อมระบบฐานข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บริการภาคประชาชน รองรับการเปลี่ยนแปลงระบบงานที่เกี่ยวข้องกับระเบียบราชการ ของหน่วยงานต่างๆในด้านการให้บริการกับภาคประชาชน ทั้งออกใบอนุญาต ออกใบรับรอง  โดยไม่ต้องสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านในการดำเนินงานเพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชนและลดค่าภาระค่าใช้จ่าย”นายยงยุทธกล่าว

 ทั้งนี้การดำเนินงานดังกล่าวจะครอบคลุมสำนักงานสังกัดพพ.ได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการแจ้งแต่งตั้งผู้รับผิดชอบด้านพลังงานโรงงาน และอาคารควบคุม การขอรับใบอนุญาตผู้ตรวจสอบและรับรองการจัดการพลังงานการตรวจประเมินและรับรองแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน เป็นต้น จากเดิมที่ผู้ขอรับบริการต้องนำเอกสารสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และเอกสารประกอบการพิจารณา เพื่อยืนยันสถานะของผู้ยื่นคำขอซึ่ง พพ.มั่นใจว่านับจากนี้การให้บริการจะมีประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกได้อย่างรวดเร็ว เพราะจะประหยัดเวลาในการจัดเตรียมเอกสารแล้วยังประหยัดทรัพยากรธรรมชาติหรือกระดาษอีกด้วย

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...