กรมการค้าต่างประเทศเผยสถานทูตจีนประจำประเทศไทยเข้าหารือขอให้ช่วยดูแลบริษัทจีนที่ย้ายฐานการผลิตมาไทย หลังได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า ยันไทยพร้อมหนุน แต่การผลิตต้องทำให้ถูกต้องตามกฎถิ่นกำเนิดสินค้า ป้องกันถูกสหรัฐฯ ใช้มาตรการ ระบุยังได้คุมเข้มการหลีกเลี่ยงอากร AD ด้วย

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สถานทูตจีนประจำประเทศไทยได้เข้ามาหารือถึงผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งสหรัฐฯ ได้ตั้งกำแพงภาษีนำเข้า 20% สำหรับสินค้าที่ส่งออกจากจีน ส่งผลให้บริษัทจีนมีความจำเป็นต้องย้ายฐานการผลิตมายังไทย เพื่อให้บริษัทยังสามารถส่งสินค้าไปแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ ได้ และขอให้กรมฯ ช่วยอำนวยความสะดวกในด้านการส่งออก

ทั้งนี้ กรมฯ ได้ยืนยันว่าสนับสนุนการย้ายฐานการผลิตดังกล่าว เพราะก่อให้เกิดการจ้างงาน การใช้วัตถุดิบในประเทศ การถ่ายทอดทักษะและเทคโนโลยี และสร้างรายได้ให้กับประเทศไทย แต่ในขณะเดียวกัน กรมฯ ได้ให้ความสำคัญกับการผลิตสินค้าที่ถูกต้องตามกฎถิ่นกำเนิดสินค้า (ROO) โดยสินค้าที่ส่งออกต้องผลิตได้ตามกฎ ROO ของสหรัฐฯ จึงจะถือว่าสินค้าได้ถิ่นกำเนิดไทย เพราะหากทำไม่ถูกต้อง การส่งออกก็จะมีปัญหาถูกสหรัฐฯ ใช้มาตรการตอบโต้ได้

“ได้แจ้งไปว่า กรมฯ ได้สุ่มตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้าที่สหรัฐฯ ใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) กับจีนมาโดยตลอด ปรากฏว่า ผู้ประกอบการจีนในไทยส่วนใหญ่ผลิตสินค้าได้ตามกฎ ROO ทำให้สถานทูตจีนมีความพอใจในการดำเนินงานของกรมฯ เป็นอย่างมาก และยินดีให้ความร่วมมือกับกรมฯ หากพบว่าผู้ประกอบการจีนรายใด มีการหลบเลี่ยงมาตรการ AD ของสหรัฐฯ เช่น นำสินค้าเข้ามาในไทยแล้วเปลี่ยนหีบห่อหรือฉลากเพื่อสวมถิ่นกำเนิดไทย เป็นต้น”นายอดุลย์กล่าว

ผู้ประกอบการที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่กองบริหารการนำเข้าและรับรองถิ่นกำเนิด โทร. 0 2547 4808 สายด่วน 1385 หรือเว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ www.dft.go.th