ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
สื่อสาร - คมนาคม ย้อนกลับ
"ศักดิ์สยาม"เร่งนโยบายด่วนสู่การปฏิบัติหลายเรื่อง
19 ก.พ. 2563

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแปรนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคมไปสู่การปฏิบัติ ครั้งที่ 1/2563 พร้อมด้วย นายสุชาติ โชคชัยวัฒนากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวงคมนาคม โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ผู้แทนกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท การท่าเรือแห่งประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

  นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการแปรนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคมไปสู่การปฏิบัติ เพื่อติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินงาน ดังนี้

1. การพิจารณานโยบายปรับเพิ่มอัตราความเร็วของรถยนต์ทุกประเภทบนถนนที่มีช่องจราจรตั้งแต่ 4 ช่องขึ้นไป จากความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็นความเร็วไม่เกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ล่าสุด สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้จัดประชุมหารือร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) และกองกฎหมาย สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม (สปค.) เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2563 เพื่อพิจารณาจัดทำ (ร่าง) กฎกระทรวงกำหนดอัตราความเร็วและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับนโยบายดังกล่าว ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2563 โดยร่างกฎกระทรวงดังกล่าวได้กำหนดอัตราความเร็วสูงสุดเป็น 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง และกำหนดประเภทถนนที่ใช้ความเร็วดังกล่าวได้ (ทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบทที่มีช่องเดินรถทิศทางเดียวกันตั้งแต่ 2 ช่องขึ้นไป เฉพาะถนนที่มีเกาะกลางถนนแบบกำแพงกั้น (Barrier Median) และไม่มีจุดกลับรถเสมอระดับถนน) ตลอดจนกำหนดอัตราความเร็วต่ำสุดในช่องขวาให้ไม่ต่ำกว่า 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเครื่องหมายจราจรกำหนดอัตราความเร็วไว้ให้ผู้ขับขี่รถทุกประเภทขับขี่ในอัตราที่กำหนดไว้ในเครื่องหมายจราจร

ทั้งนี้ ได้มอบให้ สนข. ทำประชาพิจารณ์แนวทางดังกล่าวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้แนวทางที่ชัดเจน เกิดประโยชน์สูงสุดกับความปลอดภัยของประชาชน ก่อนนำเข้า คจร. เพื่อพิจารณาต่อไป

2. การพิจารณานโยบายปรับเวลาการอนุญาตให้รถยนต์บรรทุกขนาดตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป เข้าเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ตั้งแต่เวลา 24.00 – 04.00 น.

ฝ่ายเลขาฯ ได้นำเสนอมาตรการการอนุญาตให้รถบรรทุกวิ่งเข้าเมือง โดยผ่อนผันบางเส้นทางและบางประเภทการขนส่งตามข้อบังคับเจ้าพนักงานจราจรที่เคยออกประกาศที่ผ่านมา ซึ่งกำหนดปรับเวลาการอนุญาตให้รถบรรทุกฯ เข้าเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยออกมาตรการห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 10 ล้อขึ้นไป อนุญาตให้วิ่งได้เฉพาะเวลา 24.00 – 04.00 น. (4 ชั่วโมง) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ดังนี้

1) ถนนภายนอกเขตพื้นที่วงแหวนรอบนอก (ถนนกาญจนาภิเษก) อนุญาตให้รถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งได้ 24 ชั่วโมง ยกเว้นถนนเข้า/ออกเมืองสายสำคัญที่อนุญาตให้วิ่งได้ในช่วงนอกเวลาเร่งด่วน 10.00 – 15.00 น. และช่วงเวลา 21.00 – 06.00 น. คือ ถนนบรมราชชนนี ถึงแยกถนนพุทธมณฑลสายสี่ ถนนเพชรเกษม ถนนพระราม 2 ถนนสุวินทวงศ์ และถนนนิมิตใหม่

2) ถนนวงแหวนรอบนอก อนุญาตให้รถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งได้ในช่วงนอกเวลาเร่งด่วน 10.00 – 15.00 น. และช่วงเวลา 21.00 – 06.00 น.

3) ถนนในเขตพื้นที่วงแหวนรอบนอก อนุญาตให้รถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งได้เฉพาะเวลา 24.00 – 04.00 น. ยกเว้นถนนเกษมราษฎร์และถนนอาจณรงค์อนุญาตให้วิ่งได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตามข้อผ่อนผันปัจจุบัน (เพื่อกิจการของท่าเรือกรุงเทพ)

4) ทางพิเศษ อนุญาตให้รถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งได้ในช่วงนอกเวลาเร่งด่วน 21.00 – 06.00 น.

ทั้งนี้ ได้มอบให้ ทล. พิจารณาแนวทางจัดทำ Rest Area ให้ห่างจากถนนไม่ต่ำกว่า 1 กิโลเมตร รวมทั้งมอบให้ สนข. เชิญ ขบ. สตช. กทม. กทท. สมาพันธ์รถบรรทุกแห่งประเทศไทย สมาคมก่อสร้าง และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องมาหารือถึงมาตรการข้างต้นและมาตรการเยียวยาให้กับผู้ประกอบการขนส่งต่อไป

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...