รมว.พม. กำชับ จนท. เร่งเยียวยาสภาพจิตใจเด็กหญิงวัย 11 ปี ถูกครูประจำชั้นล่วงละเมิดทางเพศที่ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมทั้งช่วยเหลือชายชราวัย 72 ปี ป่วยเป็นอัมพฤกษ์ และมีภรรยาวัย 73 ปี ที่เสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน ที่ จ.ปทุมธานี

     นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 664/2557-2560 เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุมณ ห้องประชุมชั้น 8 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ

   พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีผู้ปกครองของเด็กหญิงวัย 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 ได้พาลูกสาวเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าถูกครูประจำชั้นบังคับข่มขืนกระทำชำเรา พร้อมลักพาตัวและใช้อาวุธปืนข่มขู่ห้ามบอกใคร ที่อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดกาฬสินธุ์ (พมจ.กาฬสินธุ์) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว พร้อมเร่งเยียวยาสภาพจิตใจของเด็กหญิงอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เด็กหญิงสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมต่อไปได้อย่างปกติสุข อีกทั้ง ร่วมกันกำหนดแนวทางการช่วยเหลือตามภารกิจด้านเด็กของกระทรวง พม. ในระยะยาวต่อไป

    พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีชายชราวัย 72 ปี ป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งอาศัยอยู่กับภรรยาวัย 73 ปี ที่คอยดูแลสามีมาโดยตลอด แต่ภรรยาเสียชีวิตกะทันหันขณะนั่งพักผ่อนอยู่ข้างเตียง สร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่ชายชราเป็นอย่างมาก ที่อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี นั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี (พมจ.ปทุมธานี) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สังกัดกระทรวง พม. เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านคนพิการและผู้สูงอายุของกระทรวง พม. พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลอาการป่วยของชายชราดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้ถูกสุขลักษณะ มีความมั่นคงและปลอดภัยเหมาะสำหรับผู้สูงอายุ นอกจากนี้ ยังให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายตามความเหมาะสม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาวต่อไป