ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
คอลัมนิสต์ประจำอปท.นิวส์ ย้อนกลับ
จากเรื่องของส่วยถึงการจัดซื้อจัดจ้างมิชอบ
06 ก.ค. 2566

เขียนให้คิด โดย ซีศูนย์

จากเรื่องของส่วยถึงการจัดซื้อจัดจ้างมิชอบ

สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่เคารพ วันเวลาย่างเข้าครึ่งปี 2566 แล้วนะครับ เราเลือกตั้งกันไปก็เดือนเศษ จนวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าใครจะได้รับรอง หรือใครจะถูกสอยจาก กกต.บ้าง รวมทั้งว่าที่นายกฯ ของพรรคก้าวไกลก็ยังไม่จบกันง่ายๆ บ้านเมืองจะถูกนำไปตัดสินกันบนท้องถนนอีกมั้ย ก็ไม่มีใครทราบได้ มาวันนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ทำหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชนก็ถูกแฉเรื่องทุจริตกันมากมาย จนต้องให้เจ้าหน้าที่ออกมาปฏิเสธเป็นพัลวัน เริ่มแต่ส่วยทางหลวงมาจนถึงการรับบรรจุตำรวจเป็นกรณีพิเศษที่ว่าหลักสูตร กอส.นั่นละครับ ก็ดีเหมือนกันนะครับ ชาวบ้านจะได้รู้กันสักทีว่าหน่วยงานของรัฐแห่งนี้ถูกปล่อยให้เน่าเฟะมานานเท่าใดแล้ว

ทั้งเรื่องส่วยที่จำได้ เคยมีอดีตผู้ใหญ่ของสำนักงาน ป.ป.ป.(สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งตั้งมาตั้งแต่ปี 2518 จนกระทั่งเกิดสำนักงาน ป.ป.ช.ภายหลังในปี 2542 จึงถูกยุบไป) ท่านเคยเล่าให้ฟังว่า ป.ป.ป. สมัยนั้น เคยวางมาตรการเรื่องส่วยทางหลวงโดยไปดูของจริง เอาเจ้าหน้าที่ ป.ป.ป.ในขณะนั้น นั่งรถสิบล้อจากจังหวัดชายแดนภาคอีสานเข้ากรุงเทพฯ พอผ่านด่านทางหลวงแต่ละด่านในเส้นทางก็จะโยนเงินห้าบาทสิบบาทลงไปให้ สมัยนั้นเงินมันน้อยนะครับ

พอถึงด่านสุดท้ายจะเข้ากรุงเทพฯ บอกเงินหมด เจ้าประคุณยังยึดแม่แรงเป็นค่าผ่านด่านเสียอีก จนวันนี้เรื่องส่วยทางหลวงก็ยังไม่จบนะครับ ส่วนเรื่องรับคนเข้าอบรมหลักสูตรพิเศษจำได้ว่า สมัยผู้เขียนจบปริญญาตรีใหม่ๆ กรมตำรวจเขาเปิดหลักสูตรนายร้อยอบรม รับเด็กจบปริญญาตรีนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์เข้าเป็นตำรวจสัญญาบัตรจำได้ว่า อบรมหกเดือนก็ให้ไปบรรจุในพื้นที่สีแดง สีชมพู เพราะช่วงนั้น มีการสู้รบกับระหว่างรัฐบาลสมัยนั้นกับ พคท. ก็ไปสมัครกันมากเรื่องเส้นสายช่วงนั้น ยังมีไม่มากนัก ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกชาวบ้านได้รับราชการก็ดีกว่าเตะฝุ่น รุ่นนั้นถ้าไม่ตายก็คงเกษียณกันไปหมดแล้ว

แต่มาเดี๋ยวนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็เปลี่ยนวิธีการเอานักร้องนักแสดงมาเป็นตำรวจ ว่ากันว่าเป็นวุฒิขาดแคลนคงสนุกกันละครับ แทนที่จะไปช่วยจับโจรผู้ร้ายอาชญากรที่นับวันจะมากขึ้นเอาให้เหมาะเลยครับ แต่ยังดีครับที่มีคนที่ออกมาเปิดโปงเรื่องเหล่านี้ ยิ่งสังคมสื่อโซเชียลเปิดหูเปิดตามากขึ้นคนก็ยิ่งชอบ เพราะน่าเชื่อทุกเรื่อง ก็อย่าปล่อยให้เรื่องมันหายไปกับสายลมอีกละครับ

เอาเรื่องเราสักเรื่องครับ อาจเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ถ้าเกิดขึ้นมากมายหลายแห่งก็ทำความเสียบ้านเมืองได้ เรื่องลักษณะนี้ดูเหมือนว่า จะเกิดขึ้นมานาน จนทุกวันนี้ก็ยังมีอยู่เรื่อย ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ขณะนั้นยังสังกัดกรมสามัญศึกษาซึ่งปัจจุบันก็เป็นสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่เรียกย่อๆ ว่า สพฐ.นั้นละครับ

ที่โรงเรียนนี้มีการจัดจ้างก่อสร้างอาคารเรียนและห้องน้ำ ราคาก็เป็นล้านครับ นาย ก.ชื่อสมมตินะครับ แกเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน สมัยนั้นกรมสามัญศึกษาเองโรงเรียนจะจัดซื้อหรือจ้างอะไรก็ตาม อธิบดีก็ให้อำนาจผู้อำนวยการโรงเรียนตามวงเงินที่กำหนด ก็เหมือนเดี๋ยวนี้เช่นกันครับ ผู้อำนวยการโรงเรียนคนนี้แกก็ได้รับมอบอำนาจจากอธิบดีกรมสามัญศึกษาในขณะนั้นให้มีอำนาจสั่งซื้อหรือจ้าง โดยโรงเรียนได้ดำเนินการสอบราคาจ้างก่อสร้าง ขณะนั้นการจัดซื้อหรือจ้างก็ยังใช้ระเบียบพัสดุ สำนักนายกรัฐมนตรี

ซึ่งถ้าเป็นเป็นการตกลงราคาไม่เกินหนึ่งแสนบาท แต่ภายหลังก็ขยายเพดานเป็นห้าแสนบาทไม่เกิน ส่วนการสอบราคาก็ไม่เกินสองล้านบาท ซึ่งการก่อสร้างครั้งนั้น ก็ใช้วิธีการสอบราคา เพราะวงเงินไม่เกินสองล้านบาท ทางโรงเรียนก็มีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากำหนดราคากลาง คณะกรรมการรับ เปิดซอง คณะกรรมการตรวจรับงาน ผู้ควบคุมงาน ตามระเบียบฯถูกต้องหมด ปรากฏว่าบริษัท อ.(ชื่อสมมติ) เป็นผู้ชนะการสอบราคาครั้งนี้และเป็นผู้รับจ้างก่อสร้างอาคาร

แต่ก่อนวันทำสัญญาจ้าง นายก.ผู้อำนวยการโรงเรียนแกไปข่มขู่และเรียกรับเงินจากนาย ส. (ชื่อสมมติ) กรรมการบริษัท อ. เพื่อเป็นค่าผ่อนส่งรถยนต์ โดยขู่ว่า หากไม่ให้จะทำงานลำบากขึ้น นาย ส. จึงเข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจและร่วมวางแผนกับเจ้าหน้าที่จับกุมนาย ก. ผู้อำนวยการโรงเรียน โดยภายหลังจากการทำสัญญานาย ส. ได้นำเงินที่เป็นหลักฐานการล่อจับครั้งนี้ใส่ซองเรียบร้อยมอบให้นาย ก.ที่ห้องทำงาน

ทันทีทันใดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เข้าตรวจค้นพบเงินดังกล่าว จึงส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนต่อ ภายหลังคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติชี้มูลความผิดนาย ก.ทั้งวินัยร้ายแรง ตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 มาตรา 82 วรรคสาม และมาตรา 98 วรรคสองประกอบ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครู พ.ศ. 2523 มาตรา 4 และชี้มูลความผิดอาญามาตรา 148 มาตรา 149 มาตรา 157 เดี๋ยวนี้เรื่องจับสด ปปช.เขายังทำอยู่ ปีนี้ก็สองสามเรื่องเข้าไปแล้วนะครับ

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...