ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
แถลงข่าวของดีไทยเบิ้งตำบลโคกสลุง "ใส่อีหิ้ว กินข้าวล่อ เที่ยวเขื่อนพ่อ คิดถึงเอ๊อะ"
13 ม.ค. 2567

        จังหวัดลพบุรี 130167  ของดีไทยเบิ้งโคกสลุง ใส่อีหิ้ว กินข้าวล่อ เที่ยวเขื่อนพ่อ คิดถึงเอ๊อะ อบต.โคกสลุง แถลงข่าวการจัดงานของดีประจำตำบล "ใส่อีหิ้ว กินข้าวล่อ เที่ยวเขื่อนพ่อ คิดถึงเอ๊อะ" ครั้งที่ 1 ยกระดับอัตลักษณ์ท้องถิ่นส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้ขุมชน ณ บริเวณริมเขื่อน จุดชมวิวพนังกั้นน้ำรถไฟลอยน้ำ

         ณ ศูนย์วัฒนธรรมไทยเบิ้ง ตำบลโคกสลุง อำเภอพัฒนา นิคม จังหวัดลพบุรี องค์การบริหารส่วนตำบลโคกสลุง ได้จัดแถลงข่าวการจัดงานของดีประจำตำบลโคกสลุง ครั้งที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2567 ระหว่างวันที่ 19 - 21 มกราคม 2567 บริเวณริมเขื่อนจุดชมวิวพนังกั้นน้ำรถไฟลอยน้ำ
โดย ดร.รัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอพัฒนานิคม กล่าวถึงการท่องเที่ยวของอำเภอพัฒนานิคมว่า พัฒนานิคม เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดลพบุรี จัดตั้งขึ้นโดยโอนพื้นที่ของ 4 อำเภอ คือ อำเภอโคกสำโรง อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี และอำเภอแก่งคอย อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี มาจัดตั้ง และเป็นอำเภอที่ตั้งของเขื่อน ป่าสักชลสิทธิ์ ปัจจุบันถูกจัดให้เป็นพื้นที่จัดตั้งโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ และเป็นเขตนิคมอุตสาหกรรมของ จังหวัดลพบุรี แบ่งเขตการปกครองย่อยออกเป็น 9 ตำบล และ 11 อปท. คำขวัญ: เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์งามตระการ สูงตระหง่านเขาพระยาเดินธง ดงน้ำผึ้งโคนมไก่เนื้อ งามมากเหลือทุ่งทานตะวัน พิพิธภัณฑ์บ้านโป่งมะนาว ซึ่งตำบลโคกสลุงนี้ถือว่าเป็นพื้นที่การท่องเที่ยวเชื่อนป่าสักชลสิทธิ์ และทุ่งทานตะวัน รวมทั้งยังมีวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมชาวบ้านในอดีตคือชุมชนไทยเบิ้งที่อพยพมาจากโคราช และที่สำคัญยังมีช่วงเทศกาล น้ำเต็มอ่างเก็บน้ำ เกือบถึงรางกว่า 2 กิโลเมตร ทำให้เห็นรถไฟวิ่งบนน้ำกลางอ่าง เป็นที่มาของคำว่ารถไฟลอย น้ำ และในขณะนี้ ยังค้นพบแหล่งหินตัดเสาดิน และแพะเมืองหลุง ที่เป็นอันซีนน่าทึ่งใหม่ทั้ง 2 แห่ง อีกด้วย


ด้านอาจารย์สุรชัย เสือสูงเนิน ปราชญ์ชาวบ้านโคกสลุง กล่าวถึงวิถีชีวิตของคนไทยเบิ้งบ้านโคกสลุงว่าเป็นกลุ่มชนอีกท้องถิ่นหนึ่ง ที่ตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสัก และยังตั้งถิ่นฐานกระจัดกระจายอยู่ในจังหวัดอื่น ๆ เป็นกลุ่มที่ใช้ภาษาไทยภาคกลางเพี้ยน เหน่อ น้ำเสียงห้วนสั่น ภาษาที่นิยมพูดจะลงท้ายประโยคด้วยคำว่า เบิ้ง" วัฒนธรรมคล้ายกลุ่มชนไทยภาคกลาง แต่ยังมีลักษณะบางอย่าง ที่แสดงความเป็นเอกลักษณ์ของกลุ่มชน เช่นภาษา ความเชื่อ เพลงพื้นบ้าน เครื่องมือเครื่องใช้ ในการประกอบอาชีพ การทอผ้ารวมทั้งการละเล่นต่าง ๆความคิด ความเชื่อที่ยึดถือปฏิบัติกันมาจนตลอดเป็นประเพณี จึงเป็นรากฐานส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดวิถีชีวิตของคนในสังคม และปรากฏในทุกขั้นตอนของการดำรงชีวิต ซึ่งโบราณได้กำหนดขั้นตอนที่สำคัญของชีวิต มี 4ครั้ง คือ ตอนเกิด บวช แต่งงาน และตอนตาย จึงนิยมจัดทำพิธีเพื่อให้เกิดสวัสดิมงคล


สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ นายรัชพล เอื้อสลุง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลโคกสลุง ได้กล่าวว่า เป็นการส่งเสริมชุมชน ที่มีอัตลักษณ์ท้องถิ่นไทยเบิ้งของคนโคกสลุง สร้างการมีส่วนร่วม โดยยังคงยึดของดีประเพณี ผลิตภัณฑ์ การละเล่น อาหาร เพื่อให้คนทั่วไปได้รู้จักท้องถิ่นเก่าดั้งเดิมก่อนจะมาเป็นตำบลโคกสลุงในปัจจุบัน และยังสร้างรายได้ให้กับชุมชนชาวบ้านทั้ง 11 หมู่บ้านในเขตตำบลโคกสลุง โดยกิจกรรมประกอบด้วย การแสดง Light & sound แสงสีเสียง ประกอบการแสดงย้อนรอยประวัติศาสตร์ อารยธรรมลุ่มน้ำป่าสักความเจริญรุ่งเรืองของชาวไทยเบิ้งโคกสลุง จากอดีตจนถึงปัจจุบัน จากนักแสดงชาวบ้านโคกสลุงร่วมกับวิทยาลัยนาฎศิลป์ กว่า 40 ชีวิต การแสดงเดินแบบผ้าทอไทยเบิ้ง การแสดงวาดภาพศิลปะจิตรกรรม วิถีชีวิตชุมชนไทยเบิ่ง อาหารพื้นบ้านสู่ภัตตาคารชุมชน เลือกชิม ช้อป อาหารพื้นบ้าน และซื้อผลิตภัณฑ์ของฝากในชุมชน จากร้านค้าชุมชนกว่า 50 ร้านค้า และชิว ๆ กับการบรรยากาศการแสดงสดดนตรี ทุกคืน และถ่ายภาพสวยๆ จุดเช็คอิน สะพานรถไฟลอยน้ำประดับตกแต่งแสงไฟในยามค่ำคืน นอกจากนี้ ภายในรณรงค์ให้ใส่ชุดแบบไทยเบื้ง.. ผู้หญิงใส่เสื้ออีหิ้ว และนุ่งโจงกระเบน มีผ้าทอมือสไบไหล่ซ้าย

       สำหรับการจัดงาน "ใส่อีหิ้ว กินข้าวล่อ เที่ยวเขื่อนพ่อ คิดถึงเอ๊อะ" ครั้งที่ 1 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 มกราคม 2567 ช่วงเวลา 16.00-18.00 น. บริเวณริมเขื่อนจุดชมวิวพนังกั้นน้ำรถไฟลอยน้ำ ตำบลโคกสลุง อำเภอพัฒนา นิคม จังหวัดลพบุรี หรือมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อบต.โคกสลุง 036-483 242 , 089-194 6211 หรือ นายกรัชพล เอื้อสลุง นายก อบต.โคกสลุง ลพบุรี 095-282 9291

กฤษณ์ สนใจ ลพบุรี 0890899090

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...