ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
การเมือง / การปกครอง ย้อนกลับ
มัลลิกา บี้ รัฐมนตรีพาณิชย์อย่าเพียงปล่อยราชการชี้แจง ไล่ไปตรวจไร่สับปะรดทุกจังหวัดแล้วจัดการปัญหาดีกว่า
03 ก.ค. 2561

นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ผู้ประสานงานโครงการ #ช่วยสับปะรด2018 ณ ลานพระแม่ธรณี กล่าวว่า ต้องขอบคุณกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ที่ชี้แจงสถานการณ์วิกฤติสับปะรดตามระบบราชการโดยอ้างว่ากระทรวงพาณิชย์เป็นฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาด้านการตลาดและการส่งออกสับปะรด ได้มีการประชุมเพื่อวางมาตรการช่วยเหลือแล้ว 2 ครั้ง ในวันที่ 21 มีนาคม 2561 และวันที่ 12 มิถุนายน 2561 ซึ่งได้มีมติให้ดำเนินมาตรการต่างๆแล้ว

นางมัลลิกา กล่าวว่า แสดงว่าทางราชการและรัฐบาลก็รู้ถึงความเดือดร้อนของประชาชนแต่รัฐมนตรีขาดศักยภาพและความใส่ใจหรือไม่ อย่างไรก็ขอบคุณราชการที่พยายามตามศักยภาพของตนเองแต่ตัวเลขปริมาณสับปะรดที่แจ้งว่านับดูแล้วอุ้มเกษตรกรไปจำนวนหลัก 10,000 ตัน ขณะที่ปริมาณสับปะรดทุกจังหวัดปีนี้ล้นตลาดร่วม 1,400,000 ตันใช่หรือไม่และมีส่วนหนึ่ง 20-40 % ที่เน่าเสียหายไปแล้งเพราะมาตรการราชการรองรับไม่ทันจึงอยากให้นายสนธิรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ไปที่อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่,ตำบลเสด็จ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง และจังหวัดเชียงราย แล้วถามเกษตรกรดูว่าผลผลิตที่เน่าเสียหายไปนั้นจำนวนเท่าใด และผลผลิตยังอยู่ในสวนปัจจุบันนี้เป็นอย่างไรภายใน 3-5 วันถ้าไม่เกิดการรับซื้อสับปะรดยังจะกินได้หรือเน่าเสียหาย 

"วันนี้ถ้าเอารถ 10 ล้อไปจอด 100 คันรับซื้อผลผลิตชาวบ้านภาคเหนือก็ยังไม่หมดเลย กระทรวงพาณิชย์ต้องทำต่อเนื่องจึงจะช่วยได้" นางมัลลิกา กล่าว 

การแก้ไขปัญหาในภาวะวิกฤติต้องอาศัยบุคคลซึ่งมีอำนาจระดับรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีไม่ใช่ไปอาศัยมือของอธิบดีกรมการค้าภายเท่านั้น ในฐานะที่ได้ปรึกษาหารือกับกลุ่มเกษตรกรไปเบื้องต้นแล้วขณะนี้สับปะรดที่ยังอยู่ในไร่ทุกคนมีความหวังว่าจะขายได้เราจึงจะทำโครงการต่อไปในนาม มูลนิธิแพร่น้ำใจและกลุ่มคนไทยช่วยเกษตรกรเพราะการให้ข้อมูลของกรมการค้าภายมาในวันนี้กลับไม่ได้เป็นประโยชน์ทางด้านจิตวิทยากลไกราคาอะไรกับเกษตรกรเลย

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...