ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
พลังงาน / สิ่งแวดล้อม ย้อนกลับ
นักวิชาการ 4 สถาบัน หนุนเทคโนโลยี-พลังงานสะอาด เร่งควบคุมมลพิษ
10 ก.ย. 2562

การประชุมวิชาการ สถาบัน’ ภายใต้หัวข้อ มลพิษทางอากาศ : วิกฤตไทย วิกฤตโลก (Air Pollution: Thailand and World Crisis) โดยนักวิชาการ 4 สถาบันแนะเร่งควบคุมมลพิษ หนุนใช้เทคโนโลยีสะอาด

       นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ปาฐกถาพิเศษถึงสถานการณ์มลพิษทางอากาศของไทยว่า เป็นปัญหาเรื้อรังมายาวนาน ส่งกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพประชาชน เกิดความเสี่ยงใน กลุ่มโรค ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือดทุกชนิด กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ โรคผิวหนังอักเสบ และโรคตาอักเสบ ซึ่งสถิติผู้ป่วยในปี 2562 ใกล้เคียงกับปี 2561

        อย่างไรก็ดี จากมาตรการและความร่วมมือต่างๆ ทำให้ค่าเฉลี่ยมลพิษลดลงทุกปี จนอยู่ระดับใกล้เคียงกับมาตรฐานของประเทศไทยที่50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร แต่ช่วงต้นปีนี้สภาพอากาศเลวร้ายสูงเกินมาตรฐาน ภาวะอากาศนิ่ง ลมสงบ ไม่เอื้อต่อการกระจายตัว ส่งผลให้ฝุ่นสะสมในบรรยากาศ รวมทั้งกิจกรรมมนุษย์ทั้งการเผาไหม้เชื้อเพลิง จราจร เครื่องยนต์ดีเซล โรงงานอุตสาหกรรมและการเผาในที่โล่ง 

        ที่ผ่านมากรมควบคุมมลพิษได้ดำเนินมาตรการ อาทิ จัดตั้งสถานีตรวจวัดสภาพอากาศให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ จัดทำข้อมูลมลพิษทางอากาศแบบเรียลไทม์ ทั้งในรูปแบบเว็บไซต์ www.air4thai.pcd.go.thและแอปพลิเคชัน air4thai ให้ประชาชนรับรู้ เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายและวางแผนในชีวิตประจำวันได้ นอกจากนั้น ยังมีแผนแม่บทจัดการคุณภาพอากาศของประเทศ 20 ปี ระหว่างปี 2561- 2580 และการออกมาตรการป้องกันลดการเกิดมลพิษที่ต้นทางบังคับใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีกำมะถันไม่เกิน10 ppm ตั้งแต่ มกราคม 2567 และมาตรฐานยูโร5 ภายในปี 2564 เป็นต้น โดยได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแล้วอยู่ในขั้นตอนการเสนอเข้าสู่คณะรัฐมนตรี 

        ด้าน ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ฝุ่นละอองในอากาศมีหลายประเภทแต่มุ่งเน้นในส่วนของ PM 2.5 ที่มีขนาดเล็ก ผ่านเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจสร้างความเสียหายต่ออวัยวะและก่อเกิดโรคมะเร็ง สาเหตุหลักจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซล ไม่เพียงในประเทศเท่านั้น ทั่วโลกก็เผชิญกับปัญหานี้เช่นเดียวกัน อาทิ จีน มองโกเลีย ปักกิ่ง ลอนดอน ฝรั่งเศส เป็นต้น โดยส่วนใหญ่จะเกิดจากสภาพอากาศในช่วงต้นปี

        สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ ต้องลดการปล่อยมลภาวะตั้งแต่ต้นทาง ควบคุมใช้น้ำมันที่มีค่ากำมะถันต่ำ จำกัดเวลาการสัญจรของพาหนะในเมืองโดยเฉพาะรถบรรทุกที่ถือเป็นยานพาหนะหลักที่ปล่อยมลพิษ ให้คนทำงานที่บ้านโดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสื่อสารเข้ามาช่วยในการทำงาน เป็นต้น 

        รศ.ดร.วิษณุ อรรถวานิช จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงมูลค่าความเสียหายจากมลพิษทางอากาศว่า งานวิจัยใช้แนวคิด Subjective Well-Being ความพึงพอใจในชีวิตขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ อาทิ รายได้ สิ่งแวดล้อม ประเมินค่าความเต็มใจของครัวเรือนในกทม.ที่จะจ่ายเพื่อลดค่า PM10 ไม่ให้เกินมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) มีมูลค่าทั้งสิ้น 556,327 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปี 2560 ที่ได้มีการประเมินความเสียหายไว้อยู่ที่ 110,304 ล้านบาท 

        หากพิจารณากรณีทุกครัวเรือนทั่วประเทศได้รับผลกระทบ จะมีมูลค่าสูงถึง 2.06 ล้านล้านบาท คิดเป็น 12.64% ของ GDP หรือกรณีที่ได้รับผลกระทบ 50% มูลค่าจะอยู่ที่ 1.03 ล้านล้านบาท คิดเป็น6.32% ของ GDP โดยข้อมูลความเสียหายที่เกิดขึ้นแต่ละพื้นที่ สามารถใช้เป็นแนวทางวางนโยบาย จัดงบประมาณเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

        การแก้ปัญหาโดยใช้กลไกทางเศรษฐกิจ ควบคุมพฤติกรรม บังคับและสร้างแรงจูงใจทางตรงและทางอ้อม อาทิ ราคา ปริมาณ เทคโนโลยี สร้างความตระหนักรับรู้ถึงอันตราย เพิ่มจุดตรวจวัด ส่งเสริมงานวิจัย ลดมลพิษจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง เคร่งครัดตรวจวัดควันดำ

        ด้าน ผศ.ดร.เอื้อมพร มัชฌิมวงศ์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ปัญหามลพิษทางอากาศเกิดขึ้นมานานแล้ว ไม่ใช่เพียงประเทศไทย แต่หลายประเทศเช่น ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ ได้จัดการปัญหาหลายแนวทาง อาทิ การจัดการจราจรในเขตเมือง ขึ้นทะเบียนรถที่ปล่อยมลพิษน้อย กำหนดจำนวนผู้โดยสาร จัดบริการจอดรถฟรีในพื้นที่รอบนอก เป็นต้น 

       พลเรือตรี ดร.สมัย ใจอินทร์ เจ้ากรมพัฒนาการช่าง กรมอู่ทหารเรือ กองทัพเรือ กล่าวว่า ภารกิจหลักของกองทัพเรือนอกจากรักษาความมั่นคงของชาติทางทะเล บรรเทาสาธารณภัย และช่วยเหลือประชาชน ยังมีหน้าที่ดูแลสิ่งแวดล้อมด้วย ซึ่งกองทัพเรือได้ส่งเสริมผลิตน้ำมันไบโอดีเซล และรณรงค์ให้มีการใช้มากขึ้นตั้งแต่บี 10 บี 20และบี 100 ซึ่งจะช่วยลดปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 โดยขณะนี้กองทัพเรือนำเอาไบโอดีเซลบี 100 มาใช้ในพาหนะทั้งบกและเรือมากขึ้น เพื่อเป็นตัวอย่างให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ

 

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...