ปากเสียงของคนท้องถิ่น เพื่อการพัฒนาประเทศ
ท้องถิ่นไทย ย้อนกลับ
ประจวบคีรีขันธ์ ประกาศความสำเร็จจัดตั้งธนาคารขยะครบ 100% ทั้ง 60 อปท.
16 มี.ค. 2567

ประจวบคีรีขันธ์  ประกาศความสำเร็จจัดตั้งธนาคารขยะครบ 100% ทั้ง 60 อปท. พร้อมมุ่งขับเคลื่อนโครงการธนาคารขยะอย่างต่อเนื่อง เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี และพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้มีความสุขอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2567  นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  เปิดเผยว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดงาน “MOI Waste Bank Week – มหาดไทยปักธงประกาศความสำเร็จ 1 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1 ธนาคารขยะ” ณ สำนักงานเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ โดยมี นายวิษณุ วาสานนท์ ท้องถิ่นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายกมล แก้วเทศ นายกเทศมนตรีเมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมงาน
นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่สามารถดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายขับเคลื่อนธนาคารขยะ (Recyclable Waste Bank) จนประสบความสำเร็จ 100% ทั้ง 60 อปท. ภายในระยะเวลาที่กำหนด ปัญหาขยะมูลฝอยเป็นปัญหาที่ทุกคน ทุกภาคส่วน ต้องมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ ตั้งแต่ต้นทางในรูปแบบของธนาคารขยะรูปแบบหนึ่ง นอกจากจะเป็นการส่งเสริมการนำแนวคิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ในการบริหารจัดการ และการจำหน่ายขยะที่คัดแยกนำไปรีไซเคิลจนเป็นรายได้กลับคืนมาสู่ครัวเรือนและชุมชน เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับสมาชิกธนาคารขยะอีกด้วย 

นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวต่อว่า เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ได้คัดเลือกชุมชนหญ้าแก้วเป็นตัวแทนระดับจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในการนำเสนอผลงาน "MOI Waste Bank Week - มหาดไทยปักธงประกาศความสำเร็จ 1 อปท. 1 ธนาคารขยะ" พร้อมทั้งจัดนิทรรศการแสดงผลการดำเนินงานขับเคลื่อนธนาคารขยะของเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ และได้จัดพื้นที่สำหรับการสาธิต การซื้อขายขยะรีไซเคิล ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ได้ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 8 แห่ง นำเสนอผลงานความสำเร็จในการขับเคลื่อนธนาคารขยะ

“จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มุ่งสนองนโยบายของกระทรวงมหาดไทยในการขับเคลื่อนธนาคารขยะ (Recyclable Waste Bank) เพื่อดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ตามที่กระทรวงมหาดไทยได้ร่วมกับองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทยประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ด้วยการจัดให้มีระบบจัดการและกำจัดขยะมูลฝอยที่มีประสิทธิภาพ สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ด้านอื่น ๆ มีแนวทางการสนับสนุนให้ประชาชนได้มีการคัดแยกขยะรีไซเคิลในครัวเรือน และสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำแนวคิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาใช้ในการจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย ภายใต้หลักการ 3Rs คือ ใช้น้อย (Reduce) ใช้ซ้ำ (Reuse) และนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) พร้อมทั้งรณรงค์สร้างการรับรู้ความเข้าใจ และปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนในทุกพื้นที่ได้มีส่วนร่วมในการลดปริมาณขยะและคัดแยกขยะที่สามารถนำไปรีไซเคิลหรือไปขาย เพื่อให้มีรายได้สู่ชุมชน และพัฒนาสู่การจัดตั้งธนาคารขยะเพื่อเป็นสถานที่รวบรวมและรับซื้อขยะรีไซเคิลจากประชาชน อันเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชุมชนและนำรายได้ไปจัดสวัสดิการสังคมในรูปแบบต่าง ๆ” นายกิตติพงศ์ฯ กล่าวเน้นย้ำ

นายกิตติพงศ์ สุขภาคกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวประจวบคีรีขันธ์ทุกครัวเรือน ร่วมกันคัดเเยกขยะ จัดทำถังขยะเปียกลดโลกร้อน รวมทั้งสร้างความมั่นคงทางอาหาร ผ่านการกระตุ้นปลุกพลังภาคีเครือข่ายการทำงาน การพัฒนาคนด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้มีความสุข และขอให้ท่านนายอำเภอ ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ ตลอดจนภาคีเครือข่าย ร่วมแรง ร่วมใจกัน เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงาม Change for Good ทำให้เกิดธนาคารขยะในทุกพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม ประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น มีเงินออม ลดปริมาณขยะในพื้นที่ชุมชน ลดปัญหาโลกร้อน สร้างการเรียนรู้การคัดแยกขยะ ปลูกจิตสำนึกที่ดี และกระตุ้นให้เด็กและเยาวชนดูแลโลกใบเดียวนี้ให้ยั่งยืนตลอดไป

หนังสือพิมพ์ OPT NEWS ONLINE
วันที่ 16 - 30 เมษายน 2567
อปท.เชิญเป็นแขก ดูทั้งหมด
27 ธ.ค. 2566
แพทย์ พยาบาล หรือบุคลากรทางการแพทย์ เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่น ไม่เพียงต้องดูแลรักษาผู้ป่วยตามหลักการทางการแพทย์เท่านั้น แต่ต้องเข้าใจและเข้าถึงจิตใจของผู้ป่วยอย่างแท้จริงอีกด้วย ดังนั้น ผู้ที่จะทำงานอาชีพนี้ ต้องมีหัวใจและอุดมการณ์ที่มีความเสียส...