รายงานพิเศษ

จับตาปี 2563 ปฐมบท 5 G ในประเทศไทย

เป็นที่น่าจับตาและติดตามเป็นอย่างยิ่ง สำหรับก้าวแห่งการพัฒาเทคโนโลยีของประเทศไทยในปี 2563 นี้ นั่นเพราะว่า เทคโนโลยีการสื่อสารโทรคมนาคมจะยกระดับขึ้นสู่ 5G แล้วนั่นเอง จากการประกาศของนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.ที่เปิดเผยว่า ที่ประชุม กสทช. เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2562 เห็นชอบให้เดินหน้าจัดประมูล 5G ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 ทั้งย่าน 700 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) 1800 MHz 2600 MHz และ 26 GHz พร้อมมั่นใจภายในเดือนเมษายน 2563 สามารถกดปุ่มเปิดใช้งาน 5G ในไทยได้แน่ในบางพื้นที่ และถือเป็นการแซงหน้ายักษ์ใหญ่อย่างญี่ปุ่นด้วย

• 5G ทำอะไรได้บ้าง

หากเราย้อนดูในยุค 4G จะเห็นว่าเราสามารถดูภาพและเสียง หรือหนังออนไลน์ได้ จากการมีความเร็วหลากหลายระดับให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น G LTE (100 Mbps), LTE Advanced (1 Gbps) แต่เมื่อมาถึงยุค 5G จะเหนือกว่า 4G คือ ทตอบสนองไวขึ้น สามารถสั่งงาน และควบคุมสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว หรือเรียกว่าแทบจะทันที เนื่องจากมีความหน่วงที่ต่ำ ตอบสนองได้ไวถึง 1 ส่วนพันวินาที รองรับการ รับ-ส่ง ข้อมูลได้มากกว่า โดย 4G สามารถ รับ-ส่ง ข้อมูลได้ราว 7.2 Exabytes ต่อเดือน แต่สำหรับ 5G จะเพิ่มขึ้นราว 7 เท่า หรือ 50 Exabytes ต่อเดือน มีความเร็วมากกว่า 4G ถึง 20 เท่า ซึ่งเร็วมากพอที่จะดูวีดีโอ 8K ออนไลน์แบบ 3 มิติ หรือดาวน์โหลดภาพยนตร์ 3 มิติ ได้ในภาย 6 วินาที รองรับการใช้งานที่มากกว่า โดยจำนวนผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 10 เท่า จากที่สามารถรับคนได้ราว 1 แสนคนต่อพื้นที่ 1 ตร.กม. กลายเป็น 1 ล้านคนต่อพื้นที่ 1 ตร.กม.

นอกจากนี้ เทคโนโลยี 5G ยังถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการเชื่อมต่อจำนวนมากๆ ผ่านอินเตอร์เนต หรือที่เรียกกันว่า อินเตอร์เน็ต ออฟ ติ้ง หรือไอโอที (IoT) อาทิ รถยนต์ไร้คนขับ การผ่าตัดได้จากระยะไกล หุ่นยนต์ (Robot) ในโรงงาน รวมถึงช่วยให้เกิดการใช้งาน  AR และ VR ในกิจกรรมต่างๆ อาทิ การสำรวจภาคสนาม การสาธารณสุขทางไกล ความบันเทิง และท่อส่งข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อใช้ในการเข้าถึงการใช้งาน Cloud Computing ซึ่ง 5G ช่วยพัฒนาศักยภาพของระบบค้าปลีก การซื้อของออนไลน์ รวมถึงการใช้งานต่างๆ ของออฟฟิศอัจฉริยะ (Smart Office) และนำไปสู่ระบบเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities) ในอนาคต

5G จึงมีความสามารถเข้าไปเปลี่ยนแปลงการผลิตและการบริการในทุกวงการธุรกิจ อุตสาหกรรม หรือทุกภาคส่วนเศรษฐกิจเลยก็ว่าได้

• บทสรุป“เทเลอนอร์กรุ๊ป”

“เทเลอนอร์กรุ๊ป” ยักษฺใหญ่แห่งวงการสื่อสารโลก โดยเทเลนอร์ รีเสิร์ช ได้ออกมาเปิดเผยถึงแนวโน้มสำคัญทางเทคโนโลยีในปี 2563 คือการเกิดขึ้นของ 5G, IoT และ AI เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้บริโภคอย่าง โดยเทคโนโลยีเหล่านี้สามารถเข้าถึงและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแพร่หลาย อาทิเช่น

1. นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อม – นวัตกรรมเหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทในการจัดการสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีต่างๆ มาประยุกต์เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นไอโอที บิ๊กดาต้าและปัญญาประดิษฐ์ เพื่อลดการใช้ปริมาณการใช้ทรัพยากร อันเป็นส่วนหนึ่งของการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก

2. ร่างกายจะคอนเน็คกับอินเทอร์เน็ตกว่าที่เคย - ในปี 2563 ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะได้สัมผัสเทคโนโลยี IoT มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะด้านสุขภาพและการแพทย์ โดยเทคโนโลยี IoT จะถูกผนวกเข้าไปในอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับร่างกาย เช่น ความดันเลือด ปริมาณออกซิเจนในเลือด อัตราการเต้นของหัวใจ หรือแม้แต่การกรน ซึ่งเป็นบทบาทของ IoT ที่ผู้บริโภคสามารถสัมผัสได้ในปีหน้านี้

3. 5G เปลี่ยนโฉมหน้าพฤติกรรม พลิกโฉมเศรษฐกิจ - ในปี 2563 ประเทศพัฒนาแล้วจะมีการให้บริการเทคโนโลยี 5G กันอย่างแพร่หลาย ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะนำเทคโนโลยี 5G มาเป็นหัวใจในการพัฒนาสินค้าและบริการ โดยคาดว่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงต่อพฤติกรรมผู้บริโภคและสังคมอย่างสิ้นเชิง

4. eSIM จะมีการใช้อย่างแพร่หลาย - ในปี 2563 เทคโนโลยี eSIM จะเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคสัมผัสได้ในชีวิตประจำวันในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้กันอยู่ทุกวัน ไม่จำกัดแค่เพียงโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือแท็บเล็ต แต่จะมากับของใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งจะมาพร้อมกับเทคโนโลยี IoT และ 5G เข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคแบบไม่เคยเป็นมาก่อน 5. ปีแห่งสนามรบของ Streaming TV เป็นต้น

• เอไอเอส เปิดบททดสอบในประเทศไทย

สำหรับในประเทศไทยแล้ว ยักษ์สื่อสารหลายค่ายต่างก็ออกมาเปิดฉากต้อนรับยุค 5G กันถ้วนหน้า อาทิเช่น ค่ายแอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส (AIS) เดินหน้าทดสอบ 5G ครบทุกภาพทั่วประเทศแล้ว ล่าสุดเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ที่สามย่านมิตรทาวน์ เปิดให้ทุกคนได้สัมผัสและทดลอง 5G บนสภาพแวดล้อมจริงใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งการทดสอบครั้งนี้ เป็นการทดสอบแบบเปิด ไม่ได้ทำในห้องแลป เพื่อให้คนไทยได้เห็นถึงประโยชน์ของ 5G ในมิติต่างๆ และการนำไปประยุกต์ใช้งาน จากคุณสมบัติ 3 ส่วน คือ ความเร็วที่เพิ่มขึ้น, ขีดความสามารถการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT และเครือข่ายที่ตอบสนองได้รวดเร็วและเสถียร

ทั้งนี้ นำเสนอเทคโนโลยี 3D Hologram มาใช้ในการสื่อสารระยะไกล สามารถถ่ายทอดภาพ 3 มิติ ได้แบบ 360 องศา มีความเสมือนจริงและเรียลไทม์ มาจัดแสดงให้ประชาชนได้สัมผัส ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการนำไปประยุกต์ใช้ในการประชุมธุรกิจ, การศึกษาทางไกล, การแพทย์, การเกษตร และงานด้านแฟชั่นและบันเทิง ตลอดจนการนำไปใช้พัฒนาเกม, แอนิเมชั่น 3 มิติ, AR (Augmented Reality), VR (Virtual Reality) และ MR (Mixed Reality) ที่ผู้ใช้อาจจะอยู่คนละพื้นที่ให้สามารถแชร์ไอเดียและพัฒนางานร่วมกันได้อย่างสะดวกรวดเร็วและเห็นภาพยิ่งขึ้น ช่วยสร้างความชัดเจนในการสื่อสารระหว่างกันอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

การทดลองใช้งานโทร  5G VDO Call ข้ามภูมิภาคแบบครบทุก 5 ภาคทั่วไทย ผ่านเครือข่าย 5G ด้วยสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G ซึ่งคุณสมบัติเฉพาะของเทคโนโลยี 5G  ที่มีค่าความหน่วงต่ำ ทำให้มีการตอบสนองแบบเรียลไทม์ คมชัดและไม่สะดุด ซึ่งภาพจะมีความละเอียดสูงระดับ Full HD – 4K และสัญญาณเสียงที่คมชัดระดับ Ultra HD voice

สาธิตเทคโนโลยีการบังคับรถยนต์ไร้คนขับทางไกล ผ่านเครือข่าย 5G ทำให้ผู้ควบคุมรถไม่จำเป็นต้องอยู่ในตัวรถ แต่สามารถบังคับรถให้เคลื่อนที่ไปยังพื้นที่ต่างๆ ได้ตามต้องการ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการขนส่งสินค้าในภาคอุตสาหกรรม และการสัญจรในอนาคต

นอกจากนี้ ยังสาธิตการบังคับโดรนระยะไกล ระหว่างกรุงเทพฯ และเมืองโคราช จ.นครราชสีมา ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตผ่านเครือข่าย 5G บน Live Network แสดงแนวคิดการใช้งานโดรนในยุค 5G ซึ่งคนควบคุมไม่จำเป็นต้องอยู่ที่เดียวกับโดรน แต่สามารถควบคุมโดรนระยะทางไกลได้ผ่านเครือข่ายมือถือ และสามารถ Streaming Video ที่มีความละเอียดสูงกลับมาหาผู้ใช้งานได้ทันที ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์การใช้งานได้หลากหลาย ทั้งด้านการขนส่งและโลจิสติกส์, การเกษตร, ความปลอดภัยสาธารณะ, การกู้ภัย รวมถึงการนำไปใช้ควบคุมโดรนภายในเมืองอัจฉริยะ เพื่อใช้ในการเข้าไปสำรวจพื้นที่ต่างๆ

รวมทั้งจัดแสดงแนวคิดหุ่นยนต์ ผ่านเทคโนโลยี 5G ที่มีความเร็วสูงและความหน่วงต่ำ โดยประกอบไปด้วย 2 Use Cases คือ 5G The Robotic, the future of store การแสดงแนวคิด ซูเปอร์มาร์เก็ตในอนาคต ที่ทำงานโดยหุ่นยนต์ ผ่านเทคโนโลยี 5G ทำให้หุ่นยนต์ประมวลผลได้แบบเรียลไทม์และมีความแม่นยำสูง จึงสามารถหยิบสินค้าได้ตรงตามออเดอร์ที่ลูกค้าต้องการสั่งซื้อ

• คาดทั่วโลกใช้ 2.6 พันล้านคน

ท้ายนี้ ค่ายอิริคสัน (Ericsson) คาดว่าจำนวนผู้ใช้ระบบเครือข่าย 5G ทั่วโลกจะเพิ่มเป็น 2.6 พันล้านคนภายในอีก 6 ปีข้างหน้า โดยเป็นผลมาจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและระบบนิเวศ 5G ที่มีการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว

นอกจากนั้น ยังคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2568 เครือข่าย 5G จะครอบคลุมสัดส่วนราว 65% ของประชากรทั่วโลก และคิดเป็น 45% ของจำนวนการใช้ดาต้าอินเตอร์เน็ตบนมือถือทั่วโลก โดยในปี 2562 เป็นช่วงเวลาที่ผู้ให้บริการด้านการสื่อสารชั้นนำในเอเชีย ออสเตรเลีย ยุโรป ตะวันออกกลาง และอเมริกาเหนือได้ดำเนินการเปลี่ยนย้ายไปสู่เครือข่าย 5G  ส่วนเกาหลีใต้มีการใช้งาน 5G เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เริ่มเปิดใช้งานเมื่อเดือนเมษายน 2562 โดยผู้ให้บริการในเกาหลีใต้รายงานว่ามีจำนวนผู้ใช้งาน 5G กว่า 3 ล้านคนแล้ว ณ สิ้นเดือนกันยายน 2562 รวมทั้งการเปิดตัวระบบ 5G ในจีนเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีการอัพเดตตัวเลขประมาณการผู้ใช้ 5G สำหรับสิ้นปี 2562 ใหม่ เพิ่มจาก 10 ล้านคนเป็น 13 ล้านคน